หนองคาย- ชาวบ้านดงนาคำ หนองคาย เดือดร้อนหนัก ถนนลูกรังสายสำคัญในหมู่บ้าน เป็นหลุมเป็นบ่อ หน้าฝนสัญจรลำบาก หน้าร้อนหน้าหนาวฝุ่นคลุ้งตลบ ชาวบ้านเจ็บป่วยด้วยโรคภูมิแพ้เกือบทั้งหมู่บ้าน ร้องหน่วยงานรับผิดชอบหลายแห่งสร้างถนนลาดยางให้ แต่ยังเฉยไม่ได้รับการเหลียวแล สุดท้ายนำปลามาปล่อย ปักดำนาประชด
ชาวบ้านดงนาคำ หมู่ 5 ต.หนองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคายกว่า 50 คน ได้รวมตัวกันเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ เนื่องจากชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากถนนลูกรังสายสำคัญซึ่งเป็นถนนทางเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านในอำเภอท่าบ่อ กับอำเภอบ้านผือ จ.อุดรธานี ระยะทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ชำรุดทรุดโทรม เป็นหลุมเป็นบ่อ ชาวบ้านสัญจรไปมาลำบากเป็นอย่างมาก และในครั้งนี้ชาวบ้านได้รวมตัวกันนำปลาดุกมาปล่อยในหลุมบ่อที่มีน้ำท่วมขัง และนำต้นข้าวมาปักดำนาประชดกลางถนน
นางพรรณทิพย์ บุญช่วย อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 5 กล่าวว่า ถนนสายนี้เป็นถนนสายเศรษฐกิจสายสำคัญของชาวบ้าน ในแต่ละวันจะมีรถยนต์ทุกชนิด โดยเฉพาะรถบรรทุกผลผลิตทางการเกษตร รถสิบล้อสัญจรผ่านประจำจนถนนพัง เคยขอความช่วยเหลือด้วยการยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ ทั้ง อบต.หนองนาง, อบจ.หนองคาย ทุกครั้งก็ได้รับคำตอบว่าให้รอไปก่อน
จนเวลาผ่านมานานหลายสิบปีสภาพถนนก็ยังเป็นเช่นเดิม และแย่ลงกว่าเดิมด้วย หากยังไม่ได้รับการเหลียวแลก็จะปิดหมู่บ้าน จะใช้ถนนปักดำนา ปลูกต้นไม้ใส่ถนนเสียเลย การที่เลือกพรรคพลังประชาชน ก็เนื่องจากมีนโยบายว่าจะแก้ไขปัญหาถนนลูกรังทุกสาย แต่พอเลือกจนพรรคพลังประชาชนได้เป็นรัฐบาลแล้วก็ยังไม่ได้รับการเหลียวแล
ด้าน นางสมใจ สมชัย อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 5 กล่าวว่า ในช่วงหน้าร้อนและหน้าหนาวจะเกิดฝุ่นละอองในปริมาณมาก ส่งผลให้ชาวบ้านเจ็บป่วยเป็นโรคภูมิแพ้เกือบทั้งหมู่บ้าน โดยสามีของตนเองก็เป็นหนึ่งในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ซึ่งสามีบอกว่าจะไม่ยอมตายจนกว่าจะเห็นถนนลาดยางในหมู่บ้านเสียก่อน แต่จนแล้วจนรอดก็เสียชีวิต โดยที่ยังไม่มีการพัฒนาถนนแต่อย่างใด
เช่นเดียวกับ นายไพศาล วิชากุล อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 5 กล่าวว่า ชาวบ้านอดทนกับถนนเส้นนี้มานานมากแล้ว อยากจะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหันมาใส่ใจดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านบ้าง หน้าฝนถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ หน้าร้อน หน้าแล้ง ก็ฝุ่นคลุ้งตลบเกาะบนหลังคาบ้าน เด็กนักเรียนที่เดินทางโรงเรียนเวลาฝนตกรถขับผ่านน้ำกระเซ็นใส่ชุดนักเรียนต้องวิ่งกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วจึงกลับไปโรงเรียน ในแต่ละวันเดือดร้อนมาก