ระยอง - กลุ่มวัยรุ่นเมืองระยองอ้างเป็นเด็กมูลนิธิ หลังเกิดวิวาทสวมวิญญาณโหดขับรถไล่ชน-รุมซ้อมเด็กเทคนิค ปวช.ปี 3 ตายอนาถ
วันนี้ (21 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีกลุ่มวัยรุ่นอ้างตัวเป็นเด็กมูลนิธิ ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนทั้งหน้าและหลังไล่ชน นายอนุสรณ์ บุญมา อายุ 17 ปี นักเรียนอาชีวะ ปวช.ปี 3 แผนกช่างกล วิทยาลัยเทคนิคระยอง ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า นูโว สีบรอนซ์ ทะเบียน ป้ายแดง 176
โดยมี นายบูรพา หรือ ก้อง ดีพื้น นั่งซ้อนท้าย ทำให้รถจักรยานยนต์เสียหลักอัดกับเสาไฟฟ้าข้างทาง บริเวณหน้าร้าน มุมสองแควคาราโอเกะ ถนนท่าบรรทุก ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน กลุ่มคนร้ายถือปืนลงมารุมซ้อมนายอนุสรณ์จนสะบักสะบอม และเสียชีวิตที่ รพ.ระยอง ส่วน นายบูรพา วิ่งหลบหนีรอดตายหวุดหวิด เหตุการณ์รายนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สมนึก บุรมิ ผกก.สภ.เมืองระยอง กล่าวว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.ท.วัลลภ อาจสมิติ สว.สส.สภ.เมืองระยองพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนติดตามจับกุมได้ทั้งหมด 3 คน นายปิยะพงษ์ อักษร อายุ 21 ปี เลขที่ 84/24 หมู่ 1 ต.สำนักทอง อ.เมืองระยอง นายนกชรัต ปานแร่ อายุ 21 ปี เลขที่ 21 หมู่ 8 อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และนายกิตติชัย นามล้ำ อายุ 17 ปี เลขที่ 11 หมู่ 7 ต.หนองคู อ.นาดูล จ.มหาสารคาม ปัจจุบันพักอยู่หมู่บ้าน แพรวดาว ต.เนินพระ พร้อมรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุสภาพไฟหน้าด้านซ้ายแตก แก้มซ้ายมีรอยบุบ กระจกแผ่นหลังแตก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
สอบสวน นายปิยะพงษ์ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ทราบว่า ร่วมกับเพื่อนก่อเหตุขับรถไล่ชนนายอนุสรณ์ ผู้ตายขณะขับขี่รถจักรยานยนต์จริง ก่อนเกิดเหตุขณะที่จอดรถยนต์อยู่บริเวณชายหาดพีเอ็มวาย มีนายอนุสรณ์ ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปและมีเสียงคล้ายกระจกแตก จึงหันไปมองเห็นกระจกแผ่นหลังแตก จึงคิดว่า นายอนุสรณ์ เป็นคนกว้างหินใส่รถจนทำให้กระจกแผ่นหลังแตก จึงขับรถไล่ชนจนล้มและลงไปรุมทำร้ายนายอนุสรณ์จนทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมากลางดึก ก่อนหลบหนี
นายเสกสันต์ บุญมา อายุ 41 ปี และ นางไพเราะ บุญมา อายุ 40 ปี เลขที่ 77/2 หมู่ 3 ต.เชิงเนิน บิดามารดานาย อนุสรณ์ กล่าวว่ามีลูกชายคนเดียว ใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอม ไปทำงานเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหาร ครัวแกงเผ็ด เพื่อหารายได้พิเศษ ก่อนเกิดเหตุหลังเลิกงานได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปเที่ยวชายทะเล ขณะนั้นมีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม มีปากเสียงกันอยู่ ขณะที่ลูกชายขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาแวะจอดดู กลุ่มผู้ต้องหาได้ ถามว่าพวกมึงมีปัญหาหรือเปล่า ก็ร้องตอบไปว่าไม่มีอะไรครับ ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า “กูเด็กมูลนิธิไม่กลัวใครหรอก” ลูกชายและเพื่อนเห็นท่าไม่ดีจึงขับรถจักรยานยนต์ออกไปจากที่นั่น และมีเสียงกระจกแตกดังขึ้น อาจทำให้มีการเข้าใจผิดคิดว่าลูกชายและเพื่อนขว้างกระจกแตก จึงขับรถยนต์ไล่ชนจนกระเด็นอัดเสาไฟฟ้าข้างทาง 1 ใน 3 ชักอาวุธปืนออกมา แล้วรุมซ้อมลูกชายซ้ำอย่างเหี้ยมโหด หลังถูกนำส่ง รพ.ระยอง ได้ครู่เดียวก็สิ้นใจ
นายเสกสันต์ และ นางไพเราะ กล่าวว่า การกระทำของกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวเป็นเด็กมูลนิธิ ขับรถไล่ชนและรุมทำร้ายจนเสียชีวิต เป็นการกระทำเหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อน และโดยเฉพาะชายหาดพีเอ็มวายเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ปัจจุบันนี้เป็นแหล่งอาชญากรรม ก่อคดีจี้ปล้น ชิงทรัพย์ ข่มขืน เกิดขึ้นทุกวัน เรื่องนี้ฝาก พ.ต.อ.สมนึก บุรมิ ผกก.สภ.เมืองระยอง กำชับลูกน้องให้ดูแลความปลอดภัย ห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน มากกว่านี้หน่อย รู้สึกเสียใจที่ลูกชายต้องเอาชีวิตมาสังเวยกับเหตุการณ์อย่างนี้ ทั้งที่เขามีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น และเป็นลูกชายคนเดียว
นายประเชิญ เห่งยี่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เชิงเนิน กล่าวว่า ขอให้มีการตรวจสอบรายละเอียดของผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นเด็กมูลนิธิ เท็จจริงอย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้กระจ่าง สร้างความเสื่อมเสียให้กับมูลนิธิฯ ส่วนนายอนุสรณ์ ผู้ตายเท่าที่สัมผัสในหมู่บ้านปกติเป็นคนไม่มีนิสัยเกเร เป็นเด็กขยัน ปิดเทอมยังหารายได้พิเศษทำงานเด็กเสิร์ฟร้านอาหาร