ตราด - ค้าชายแดนตราด - เกาะกง พุ่งสู่ 14,000 ล้านบาท แต่นักธุรกิจอำเภอคลองใหญ่กลับแย่ลงเหตุพ่อค้ากัมพูชาซื้อสินค้าจากผู้ผลิตโดยตรง, ขณะน้ำมันแพงธุรกิจประมงก็ทรุด
นายศุภวัฒน์ ชวิทย์ฤทัยกุล พ่อค้าชายแดนด้าน อ.คลองใหญ่ จ.ตราด และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลคลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า ปัจจุบันการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด ในรอบปี 2550 มีมูลค่าการขายสูงถึง 14,500 ล้านบาท โดยมีมูลค่านำเข้าเพียง 40-50 ล้านบาทเท่านั้น
แต่ปรากฏว่าสินค้าที่ส่งออกไปกัมพูชานั้น ชาว อ.คลองใหญ่กลับไม่ได้ประโยชน์เหมือนเมื่อ 15 ปี ที่ผ่านมา ที่สินค้าส่วนใหญ่พ่อค้าจะสั่งซื้อโดยผ่านพ่อค้าคนไทยใน อ.คลองใหญ่ แต่ปัจจุบันพ่อค้ากัมพูชาสั่งโดยตรงจากผู้ผลิตสินค้าในกรุงเทพฯ ส่งผลให้ธุรกิจการค้า ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.คลองใหญ่ ที่แม้ว่าจะมีมูลค่าสูงเท่าใดก็จะไม่เกิดผลกับธุรกิจของอำเภอคลองใหญ่ เท่าใดนัก อย่างมากก็แค่ได้ค่าธรรมเนียมเท่านั้น
“เศรษฐกิจของ อ.คลองใหญ่ในยุค 10-15 ปีที่ผ่านมาดีมากชาวคลองใหญ่ มีรายได้จากการค้าขายสินค้า มีรายได้จากการทำธุรกิจประมงในน่านน้ำไทยและน่านน้ำกัมพูชา ธุรกิจใน อ.คลองใหญ่เติบโตและขยายออกไปมาก การค้าชายแดนที่ทั้งถูกต้องและไม่ถูกต้องได้ช่วยให้ อ.คลองใหญ่ เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจดี ปัญหาในท้องถิ่นก็มีน้อย แต่ปัจจุบันไม่เป็นเช่น คนที่รวยกับเป็นจากส่วนกลาง"
นายศุภวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนธุรกิจประมงก็ประสบปัญหาเรื่องจำนวนสัตว์น้ำที่ลดลงและราคาน้ำมันก็แพงขึ้นจนชาวประมง ประสบปัญหาต้นทุนสูง จนปัจจุบันธุรกิจประมงต้องหยุดนิ่ง บางคนที่พอจะอดทนก็ยัง ทำต่อไป แต่ก็มีรายได้ไม่มากนัก ผมในฐานะสมาชิกสภาเทศบาล ต.คลองใหญ่ ก็รับทราบปัญหานี้ดีก็ได้ช่วยเหลือและ ใช้งบประมาณ ในการกระตุ้น เศรษฐกิจเพื่อให้ชาวคลองใหญ่มีรายได้เพิ่มขึ้น
นายศุภวัฒน์ ชวิทย์ฤทัยกุล พ่อค้าชายแดนด้าน อ.คลองใหญ่ จ.ตราด และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลคลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า ปัจจุบันการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด ในรอบปี 2550 มีมูลค่าการขายสูงถึง 14,500 ล้านบาท โดยมีมูลค่านำเข้าเพียง 40-50 ล้านบาทเท่านั้น
แต่ปรากฏว่าสินค้าที่ส่งออกไปกัมพูชานั้น ชาว อ.คลองใหญ่กลับไม่ได้ประโยชน์เหมือนเมื่อ 15 ปี ที่ผ่านมา ที่สินค้าส่วนใหญ่พ่อค้าจะสั่งซื้อโดยผ่านพ่อค้าคนไทยใน อ.คลองใหญ่ แต่ปัจจุบันพ่อค้ากัมพูชาสั่งโดยตรงจากผู้ผลิตสินค้าในกรุงเทพฯ ส่งผลให้ธุรกิจการค้า ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.คลองใหญ่ ที่แม้ว่าจะมีมูลค่าสูงเท่าใดก็จะไม่เกิดผลกับธุรกิจของอำเภอคลองใหญ่ เท่าใดนัก อย่างมากก็แค่ได้ค่าธรรมเนียมเท่านั้น
“เศรษฐกิจของ อ.คลองใหญ่ในยุค 10-15 ปีที่ผ่านมาดีมากชาวคลองใหญ่ มีรายได้จากการค้าขายสินค้า มีรายได้จากการทำธุรกิจประมงในน่านน้ำไทยและน่านน้ำกัมพูชา ธุรกิจใน อ.คลองใหญ่เติบโตและขยายออกไปมาก การค้าชายแดนที่ทั้งถูกต้องและไม่ถูกต้องได้ช่วยให้ อ.คลองใหญ่ เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจดี ปัญหาในท้องถิ่นก็มีน้อย แต่ปัจจุบันไม่เป็นเช่น คนที่รวยกับเป็นจากส่วนกลาง"
นายศุภวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนธุรกิจประมงก็ประสบปัญหาเรื่องจำนวนสัตว์น้ำที่ลดลงและราคาน้ำมันก็แพงขึ้นจนชาวประมง ประสบปัญหาต้นทุนสูง จนปัจจุบันธุรกิจประมงต้องหยุดนิ่ง บางคนที่พอจะอดทนก็ยัง ทำต่อไป แต่ก็มีรายได้ไม่มากนัก ผมในฐานะสมาชิกสภาเทศบาล ต.คลองใหญ่ ก็รับทราบปัญหานี้ดีก็ได้ช่วยเหลือและ ใช้งบประมาณ ในการกระตุ้น เศรษฐกิจเพื่อให้ชาวคลองใหญ่มีรายได้เพิ่มขึ้น