ศูนย์ข่าวขอนแก่น – ชาวบ้านสงเปือย กว่า 300 คน ร้องผู้ว่าฯขอนแก่น หลังเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นฝ่ายธรรมยุติให้นายทุนรุกที่ธรณีสงฆ์สร้างวัตถุสถาน ด้านร้องผู้ว่ารับเรื่องแทน เผย จะจัดการให้เร่งด่วนก่อนเรื่องบานปลาย ขณะเดี่ยวกันก็สามารถพึ่งอำนาจทางศาล ในฐานะวัดที่เป็นนิติบุคคลได้
วันนี้ (16 พ.ค.) ที่สนามหน้าศาลากลาง ชาวบ้านสงเปือยกว่า 300 คน รวมตัวกันประท้วงหน้าศาลากลางพร้อมกับเรียกร้องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นดำเนินการกับเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นฝ่ายธรรมยุติหลังรุกที่ธรณีสงฆ์
นายสมเด็จ เปิดเผยว่า การละเมิดพื้นที่ในการครอบครองของหมู่บ้านสงเปือย อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เป็นทางผ่านระหว่างขอนแก่นกับจังหวัดกาสินธุ์ เรียกร้องสิทธิ์เอาที่ดินคืน การแก้ไขปัญหาที่ดินวัดสระแก้ว (ร้าง) อ้างถึงหนังสือจังหวัดขอนแก่นที่ ขก. 0030/15185 ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมากับผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ส่งบันทึกรายงานผลตรวจสอบข้อเท็จจริง
“อยากให้ดำเนินการกับเจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุต ที่ใช้ที่ธรณีสงฆ์ไปออกโฉนด ที่เป็นพื้นที่ธรณีสงฆ์แต่กลับมากลายเป็นว่าเป็นวัดร้าง และเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ก็มาใช้ประโยชน์ ซึ่งในความจริงใช่วัดร้างแต่อย่างไร” แกนนำชาวบ้าน กล่าวและว่า
ในส่วนเรื่อง ตามเดิมที่โฉนดที่ดินเลขที่ 164325 เลขที่ดิน 300หน้าสำรวจ 1229 มีเนื้อที่ประมาณ 13ไร่ 3 งาน 40ตารางวา ระบุเป็นของวัดสระแก้ว (ร้าง) ว่า อยู่ในความดูแลของสำนักงานสงฆ์ ที่จากเดิมการแก้ไขหนังสือราชการที่วัดสระแก้ว (ร้าง) ที่ปัจจุบันกลายเป็นวัดป่ารัตนาราม ตั้งอยู่บริเวณโรงเรียนบ้านสงเปือยฮ่องเดื่อในปัจจุบัน ส.ค.1 เลขที่ 209 ระบุว่าสภาพที่ดินเป็นธรณีสงฆ์ของวัดสระแก้ว บ้านสงเปือยชาวบ้านยินดียกให้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2480 นั้นไม่ถูกต้อง เนื่องจากพื้นที่จากข้อเท็จจากพยานและเอกสาร พยานบุคคลเห็นว่าวัดสระแก้ว(ร้าง) ไม่น่าจะเป็นของพื้นที่สงฆ์ของวัดป่ารัตนารามแต่อย่างใด
นายสมเด็จ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ส่งเรื่องให้ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดขอนแก่น รื้อเรื่องราวให้ ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธืที่ผ่านมา ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนแต่อย่างใด ทั้งนี้ทางชาวบ้านจึงได้เล็งเห็นสิ่งที่จะตามมา เนื่องจากที่ข้ออ้างที่ว่าพื้นที่เป็นของพระธรรมยุทธิ์และกำลังจะก่อสร้าง ทั้งวัด ห้องน้ำ หรือแม้กระทั้งอาคารต่างๆนั้น ต้องเดือดร้อนต่อชาวบ้านเป็นแน่
ด้าน นายจุมพล จำปาจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้ออกมาพบชาวบ้านพร้อมกับกล่าวว่า ตนเองมาแทนผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นซึ่งติดภารกิจ ไม่สามารถมาพบชาวบ้านได้ แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีการออกโฉนดคลาดเคลื่อน แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะเร่งแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากว่าวัดเป็นนิติบุคคล ชาวบ้านก็สามารถที่จะพึ่งอำนาจทางศาลได้ ซึ่งชาวบ้านก็พอใจและแยกย้ายกันกลับ
วันนี้ (16 พ.ค.) ที่สนามหน้าศาลากลาง ชาวบ้านสงเปือยกว่า 300 คน รวมตัวกันประท้วงหน้าศาลากลางพร้อมกับเรียกร้องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นดำเนินการกับเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นฝ่ายธรรมยุติหลังรุกที่ธรณีสงฆ์
นายสมเด็จ เปิดเผยว่า การละเมิดพื้นที่ในการครอบครองของหมู่บ้านสงเปือย อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เป็นทางผ่านระหว่างขอนแก่นกับจังหวัดกาสินธุ์ เรียกร้องสิทธิ์เอาที่ดินคืน การแก้ไขปัญหาที่ดินวัดสระแก้ว (ร้าง) อ้างถึงหนังสือจังหวัดขอนแก่นที่ ขก. 0030/15185 ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมากับผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ส่งบันทึกรายงานผลตรวจสอบข้อเท็จจริง
“อยากให้ดำเนินการกับเจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุต ที่ใช้ที่ธรณีสงฆ์ไปออกโฉนด ที่เป็นพื้นที่ธรณีสงฆ์แต่กลับมากลายเป็นว่าเป็นวัดร้าง และเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ก็มาใช้ประโยชน์ ซึ่งในความจริงใช่วัดร้างแต่อย่างไร” แกนนำชาวบ้าน กล่าวและว่า
ในส่วนเรื่อง ตามเดิมที่โฉนดที่ดินเลขที่ 164325 เลขที่ดิน 300หน้าสำรวจ 1229 มีเนื้อที่ประมาณ 13ไร่ 3 งาน 40ตารางวา ระบุเป็นของวัดสระแก้ว (ร้าง) ว่า อยู่ในความดูแลของสำนักงานสงฆ์ ที่จากเดิมการแก้ไขหนังสือราชการที่วัดสระแก้ว (ร้าง) ที่ปัจจุบันกลายเป็นวัดป่ารัตนาราม ตั้งอยู่บริเวณโรงเรียนบ้านสงเปือยฮ่องเดื่อในปัจจุบัน ส.ค.1 เลขที่ 209 ระบุว่าสภาพที่ดินเป็นธรณีสงฆ์ของวัดสระแก้ว บ้านสงเปือยชาวบ้านยินดียกให้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2480 นั้นไม่ถูกต้อง เนื่องจากพื้นที่จากข้อเท็จจากพยานและเอกสาร พยานบุคคลเห็นว่าวัดสระแก้ว(ร้าง) ไม่น่าจะเป็นของพื้นที่สงฆ์ของวัดป่ารัตนารามแต่อย่างใด
นายสมเด็จ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ส่งเรื่องให้ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดขอนแก่น รื้อเรื่องราวให้ ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธืที่ผ่านมา ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนแต่อย่างใด ทั้งนี้ทางชาวบ้านจึงได้เล็งเห็นสิ่งที่จะตามมา เนื่องจากที่ข้ออ้างที่ว่าพื้นที่เป็นของพระธรรมยุทธิ์และกำลังจะก่อสร้าง ทั้งวัด ห้องน้ำ หรือแม้กระทั้งอาคารต่างๆนั้น ต้องเดือดร้อนต่อชาวบ้านเป็นแน่
ด้าน นายจุมพล จำปาจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้ออกมาพบชาวบ้านพร้อมกับกล่าวว่า ตนเองมาแทนผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นซึ่งติดภารกิจ ไม่สามารถมาพบชาวบ้านได้ แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีการออกโฉนดคลาดเคลื่อน แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะเร่งแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากว่าวัดเป็นนิติบุคคล ชาวบ้านก็สามารถที่จะพึ่งอำนาจทางศาลได้ ซึ่งชาวบ้านก็พอใจและแยกย้ายกันกลับ