พะเยา - เกษตรกรชาวสวนลิ้นจี่ในจังหวัดพะเยา พอใจราคาลิ้นจี่ปีนี้ โดยลิ้นจี่พันธุ์ “โอวเฮี๊ยะ” และ “จักรพรรดิ” อยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท ขณะที่พันธุ์ฮงฮวยเกรด A กิโลกรัมละ 25-30 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพะเยาถึงสถานการณ์ราคาลิ้นจี่ว่า ปีนี้ มีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว โดยนางนิยม ใจมิภักดิ์ อายุ 39 ปี แม่ค้าซึ่งเป็นเกษตรกรชาวสวนลิ้นจี่ ต.ศรีถ้อย อ.แม่ใจ จ.พะเยา ที่นำลิ้นจี่มาจำหน่ายในงานเทศกาลลิ้นจี่จังหวัดพะเยาปี 2551 ที่บริเวณสวนสุขภาพหลังเทศบาลเมืองพะเยา บอกว่าราคาลิ้นจี่ปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว โดยพันธุ์โอวเฮี๊ยะ และพันธุ์จักรพรรดิอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท
ขณะที่พันธุ์ฮงฮวยเกรด A กิโลกรัมละ 25-30 บาทและเกรด B กิโลกรัมละ 20 บาท ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นไปตามกลไกทางตลาด ที่ปีนี้ลิ้นจี่ของพะเยาออกสู่ตลาดน้อยกว่าปีที่แล้ว เป็นผลมาจากปีนี้อากาศค่อนข้างร้อน และที่ผ่านมาเกิดพายุลูกเห็บตกทำให้ผลผลิตเสียหาย ส่งผลให้ราคาลิ้นจี่ปีนี้สูงเป็นที่พอใจของเกษตรกร ทำให้ไม่มีเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงของเกษตรเหมือนหลายๆ ปีที่ผ่านมา
ส่วนบรรยากาศการการซื้อขายลิ้นจี่ในงานเทศกาลลิ้นจี่จังหวัดพะเยาประจำปี 2551 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-19 พ.ค.นี้ ที่บริเวณสวนสุขภาพหลังเทศบาลเมืองพะเยา วันนี้ (15 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันแรกของงาน ตั้งแต่ช่วงเช้าก็มีประชาชนทั้งในและต่างจังหวัด ทยอยออกมาซื้อลิ้นจี่กันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลิตลิ้นจี่ของจังหวัดพะเยาปีนี้ที่ออกสู่ตลาดกว่า 9,800 ตัน ซึ่งน้อยกว่าปีที่ผ่าน เริ่มหมดลง แต่ก็คาดว่าน่าจะมีไปจนถึงวันสุดท้ายของการจัดงาน ทั้งนี้ เนื่องจากลิ้นจี่พันธุ์จักรพรรดิของจังหวัดพะเยา กำลังที่จะเริ่มออกสู่ตลาด
ขณะที่ภาครัฐยืนยันว่าสถานการณ์ราคาลิ้นจี่ปีนี้ค่อนข้างดี ส่งผลให้ภาครัฐไม่ต้องเข้าแทรกแซงราคา แต่อย่างไรก็ตาม จังหวัดพะเยาก็ได้จัดงานเทศกาลลิ้นจี่พะเยา เพื่อเป็นการเป็นการส่งเสริมการผลิต พัฒนาคุณภาพ และแก้ไขปัญหาด้านการตลาด
อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดพะเยาด้วย โดยจะมีพิธีเปิดงานในเย็นวันนี้ เวลา 17.30 น. โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น ขบวนแห่ลิ้นจี่และของดีจากอำเภอต่างๆ ในจังหวัดพะเยา, ประกวดธิดาลิ้นจี่, ประกวดลิ้นจี่, ประกวดผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลิ้นจี่, ประกวดการจัดกระเช้าลิ้นจี่ การสาธิตการทำไอศกรีม และการทำน้ำลิ้นจี่, การจำหน่ายลิ้นจี่คุณภาพจากชาวสวนโดยตรง การจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ และการจัดนิทรรศการการเกษตร