เพลิงเผาวอดคลังสารเคมีนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรสูญนับร้อยล้าน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เพลิงพิโรธเผาวอดคลังสินค้า สารเคมี นิคมอุตสาหกรรมเวลโกร สูญนับร้อยล้านบาท เสียงระเบิดดังจากกองเพลิงพร้อมชิ้นส่วนโลหะปลิวว่อนสู่อากาศเป็นระยะ สร้างความหวาดเสียวต่อเจ้าหน้าที่ผจญเพลิง ขณะผู้บริหารยังอ้ำอึ้งปกปิดข้อมูล ด้านผู้ว่าห่วงสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ

ค่ำวานนี้ (12 พ.ค.) พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ จิตบุญย์กุลธร สารวัตรเวร สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้คลังสินค้าของบริษัท ยูไนเต็ดไทย โลจิสติก จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 80/1 ซ 10 พื้นที่ ม.5 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ภายในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมแจ้งขอรถน้ำดับเพลิง และเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุเป็นคลังสินค้าขนาดใหญ่ ขนาดกว้าง 50 เมตร ยาว 250 เมตร ปลูกสร้างอยู่บนเนื้อที่ 25 ไร่ ตั้งตะหง่านคู่กัน 2 หลัง บริเวณอาคารหลังด้านซ้าย ซึ่งด้านหน้าเป็นสำนักงานออฟฟิส ถูกเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง มีกลุ่มควันไฟสีดำพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก ปกคลุมทั่วท้องฟ้าบริเวณที่เกิดเหตุจนมืดครึ้ม เจ้าหน้าที่ได้เร่งระดมรถดับเพลิงจากทั้งภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ชลบุรี และกรุงเทพฯ จำนวนกว่า 60 คัน พร้อมรถโฟม จำนวน 3 คันเข้ามาควบคุมเพลิง ท่ามกลางความแออัดของการจราจรที่ติดขัดเนื่องจากเป็นช่วงเวลาหลังเลิกงานของโรงงานที่อยู่ภายใน

หลังเพลิงลุกไหม้ตัวอาคารไปแล้วนานกว่า 1 ชม. ตัวอาคารและโครงสร้างของอาคารทั้งหลังจึงได้ถล่มลงมา ท่ามกลางเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง พร้อมมีเสียงระเบิดดังจากภายในกองเพลิงเป็นระยะ และมีเศษโลหะปลิวลอยออกมายังด้านนอกตลอดเวลา จึงทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำการควบคุมเพลิงด้วยความยากลำบากมากขึ้น

ด้าน นางรัชดาพร วรานุกูลรัตน์ ผู้จัดการคลังสินค้าดังกล่าวได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ แต่ไม่ยินยอมเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดใดๆ ต่อเจ้าหน้าที่ และผู้สื่อข่าว บอกเพียงเป็นคลังสินค้าที่ใช้เก็บสินค้าจำพวกเคมีภัณฑ์ของลูกค้า จากการรับฝากเก็บสินค้าจากหลายบริษัท โดยรับจัดการขนส่งและจัดเก็บดูแลให้เท่านั้น

พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า บริษัทดังกล่าว เป็นบริษัทที่มีเจ้าของเป็นหุ้นส่วนด้วยกันจำนวน 3 ชาติ คือ ไทย ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาเลิกงานแล้วมีเพียงพนักงานบางส่วนทำงานอยู่ภายในจึงไม่มีผู้ใดเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย 1 ราย คือ นายอินทร์เป็ก แสนเปลี่ยน อายุ 56 ปี ไม่ทราบบ้านเลขที่ ม.1 ต.ห้วยพุก อ.เมือง จ.พิจิตร ถูกไฟลวงที่ขาด้านซ้าย ถูกนำส่งไปยัง รพ.บางปะกงปิยเวช

ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบ เนื่องจากยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุได้ ทราบแต่เพียงเพลิงได้ลุกไหม้ขึ้นจากทางด้านหลังของตัวอาคารคลังสินค้า และได้ลุกลามไหม้สารเคมีจนยากที่จะทำการควบคุม

ขณะที่ นายอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเดินทางมาตรวจยังที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมรองผู้ว่าฯ นายอำเภอ และ พล.ต.ต.ปราโมทย์ ปทุมวงศ์ ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา รวมทั้งรองผู้บังคับการ และ ผกก. สภ.บางปะกง

โดยนายอานนท์ กล่าวว่า เป็นห่วงด้านมลพิษที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบบริเวณนิคมอุตสาหกรรม เนื่องจากเพลิงได้ลุกเผาไหม้สารเคมีที่ถูกจัดเก็บไว้ ภายในคลังสินค้าเป็นจำนวนมากและเป็นเวลานานจนทำให้กลุ่มควันจากสารเคมีฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณโดยรอบหลายสิบตารางกิโลเมตร ซึ่งจะได้เร่งให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมลงพื้นที่ลงมาตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมภายในนิคมอุตาหกรรมเวลโกรนั้น มีอยู่ด้วยกันรวม 132 แห่งจากกลุ่มควันที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้สำลักควันไฟหลายราย รวมทั้งผู้สื่อข่าวเอง ที่ได้เข้าไปรายงานข่าวต่างรู้สึกมึนศีรษะ เจ็บคอ และแสบจมูก ซึ่งล่าสุดเวลาผ่านไปแล้วกว่า 5 ชม.เพลิงยังไม่สงบลง แต่สามารถควบคุมไว้ได้ในวงจำกัดแล้วเนื่องจากมีฝนตกลงมาช่วยในพื้นที่เกิดเหตุ