เผยโฉมสองผัวเมียตุ๋นบริษัทขายเมล็ดพันธุ์ยันเกษตรกรเหนือนับสิบล้าน

พะเยา – แฉสองผัวเมียแสบตุ๋นบริษัทตำแทนจำหน่ายเมล็ดพันธุ์-เกษตรกร สูญเงินนับ 10 ล้านบาท ล่าสุดศาลจังหวัดพะเยานัดไกล่เกลี่ย แต่กลับผิดนัด กลุ่มผู้เสียหายเตือนหากใครพบเห็นอย่าหลงเชื่อ หลังได้ข่าวยังตระเวนหากินต้มตุ๋นเกษตรกรไม่หยุด

วันนี้ (12 พ.ค.) นางจิตตพัฒน์ ณัฐากาญจน์ ผู้แทนจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ทางการเกษตร บ.ไวตาฟู้ด จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดพะเยา เพื่อเข้าไกล่เกลี่ยคดี ตามที่ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพะเยา กรณีถูกนายสุรัตน์ อุบลรัตน์ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 199/3 ม.6 ต.วังแดง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ และ น.ส.ขนิษฐา เปรมใจ อายุ 21 ปี ต.คอนสาร อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ที่อยู่กินกันฉันสามีภรรยา ในคดีเช็คเด้ง เป็นเงินจำนวน 1.25 ล้านบาท จากการซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดหวานที่สำนักงานใน จ.แพร่ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยสั่งจ่ายเงินทั้งหมดที่ธนาคารในจังหวัดพะเยา

นอกจากนี้ นายสุรัตน์ และ น.ส.ขนิษฐา ยังถูกผู้แทนจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ทางการเกษตรในภาคเหนือแจ้งความดำเนินคดีข้อหาเดียวกันอีกหลายบริษัท

หลังจากที่นางจิตตพัฒน์ได้มารออยู่ที่ศาลเพื่อรอการไกล่เกลี่ย ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไม่มาตามที่ศาลนัดแต่อย่างใด

นางจิตตพัฒน์ กล่าวว่า ตนและเพื่อนผู้แทนจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ทางการเกษตรอีกนับ 10 คนจาก 3 บริษัท คือ บ.ไวตาฟู้ด, บ.แอกโกร ออนส์ พะเยา และ บ.สตาร์ อะกรีเทด จำกัด เป็นผู้แทนจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ทางการเกษตร ที่ทำธุรกิจจำหน่ายเมล็ดพันธุ์การเกษตรในภาคเหนือให้กับเกษตรกรโดยการทำสัญญายืมเงินกับบริษัทแม่ เพื่อให้เกษตรกรที่เป็นลูกค้าเพาะปลูกและรับซื้อในราคาประกัน

ที่ผ่านมา นายสุรัตน์ และนางขนิษฐา ได้แอบอ้างกับเกษตรกรว่าเป็นผู้แทนบริษัททั้ง 3 บริษัท ในการับซื้อผลผลิตทั้งหมด และจะนำเงินมาให้ภายหลัง ทำให้เกษตรกรหลายรายหลงเชื่อถูกหลอกเป็นกันจำนวนมาก แต่กลับไม่ได้นำเงินมาให้กับเกษตรกรแต่อย่างใด ส่งผลให้ตนรวมถึงเพื่อนผู้แทนจำหน่ายเมล็ดพันทางการเกษตร ต้องรับภาระใช้หนี้ที่ทำสัญญาไว้กับบริษัทแม่เป็นเงินมากกว่า 10 ล้านบาท รวมถึงเกษตรบ้านโซ้ ต.แม่นาเรือ อ.เมือง จ.พะเยา อีก นับ 10 รายที่ถูกนายสุรัตน์ และนางสาวขนิษฐาหลอกเอาผลผลิตทางการเกษตรไป

นางจิตตพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งสองยังคงมีพฤติกรรมฉ้อโกงประชาชนอยู่ หากพบผู้ต้องหาทั้งสองหรือบุคคลที่มีพฤติกรรมดังกล่าวจงอย่าลงเชื่อเพราะอาจถูกฉ้อโกงได้

ขณะที่ศาลจังหวัดพะเยาเตรียมเรียกผู้ต้องหาทั้ง 2 คนอีกครั้ง ในวันที่ 21 ก.ค.2551 เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหาย แต่หากยังฝ่าฝืนคำสั่งก็จะถูกออกหมายจับต่อไป