มุกดาหาร - รวบหนุ่มอุทัยธานีขนยาบ้าข้ามสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 กว่า 700 เม็ด สารภาพรับจ้างมาอีกทอดราคา6,000 บาท เพื่อส่งลูกค้าใน กทม.
วันนี้ (11 พ.ค.) นายโชติพงษ์ ดิษเจริญ นายด่านศุลกากรมุกดาหาร ร่วมกับ จนท.ตร.สภ.เมืองมุกดาหาร, ตม.มุกดาหาร, นรข.มุกดาหาร จับกุม นายคงฤทธิ์ สุขโต อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.2 ต.หนองแค อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี พร้อมของกลางยาบ้า WY สีส้ม จำนวน 720 เม็ด สีเขียว 8 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมด 728 เม็ด เงินสด 2,000 บาท บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้า จำนวน 4 ถุง ซุกซ่อนอยู่ในพื้นรองเท้าแตะสีดำข้างละ 2 ถุง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้เดินทางโดยรถยนต์โดยสารระหว่างประเทศ (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) ข้ามไปรับยาบ้าจาก นายเปิ้ล ไม่ทราบนามสกุล ราษฎรแขวงสะหวันนะเขต ประเทศ ส.ป.ป.ลาว ที่บริเวณตลาดสวรรค์ชัย และเดินทางกลับข้าม
เข้ามา และถูกเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรมุกดาหาร ประจำสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 มุกดาหาร - สะหวันนะเขต จับกุมได้ดังกล่าว และยังให้การอีกว่าได้รับการว่าจ้างจาก นายเชิด ไม่ทราบนามสกุล คนขับรถยนต์โดยสารประจำทางสาย ยโสธร-กรุงเทพฯ ในราคา 6,000 บาท เพื่อไปส่งให้กับลูกค้าที่ กทม.โดยกระทำมาหลายครั้งแล้ว
นายคงฤทธิ์ ถูกตั้งข้อกล่าวหา “นำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย”
ปัจจุบันกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด (ยาบ้า) ได้ใช้พื้นที่ จ.มุกดาหาร เป็นเส้นทางในการลำเลียงยาเสพติด (ยาบ้า) เข้ามาในประเทศไทย แบบกองทัพมด โดยใช้วิธีการซุกซ่อนมาทางช่องทวารหนัก, พื้นรองเท้า และปะปนมากับสินค้าหนีภาษี ตลอดจนแรงงานต่างด้าว(ลาว) ที่ลักลอบหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย เป็นจำนวนมาก
เนื่องจากความยากจนในประเทศ ประกอบกับผู้ที่รับจ้างขนยาเสพติด (ยาบ้า) มีฐานะร่ำรวยมากขึ้น จากผู้รับจ้างขนมาเป็นผู้ค้ารายย่อย และเป็นผู้ค้ารายใหญ่ จนเป็นแบบอย่างให้กับผู้ที่ยากจน กล้าที่จะรับจ้างขน โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองของไทย ซึ่งทางการของประเทศไทยน่าจะมีมาตรการขั้นเด็ดขาดเพิ่มโทษกับกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดเพื่อมิให้เป็นเยื้องอย่างต่อไป
วันนี้ (11 พ.ค.) นายโชติพงษ์ ดิษเจริญ นายด่านศุลกากรมุกดาหาร ร่วมกับ จนท.ตร.สภ.เมืองมุกดาหาร, ตม.มุกดาหาร, นรข.มุกดาหาร จับกุม นายคงฤทธิ์ สุขโต อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.2 ต.หนองแค อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี พร้อมของกลางยาบ้า WY สีส้ม จำนวน 720 เม็ด สีเขียว 8 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมด 728 เม็ด เงินสด 2,000 บาท บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้า จำนวน 4 ถุง ซุกซ่อนอยู่ในพื้นรองเท้าแตะสีดำข้างละ 2 ถุง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้เดินทางโดยรถยนต์โดยสารระหว่างประเทศ (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) ข้ามไปรับยาบ้าจาก นายเปิ้ล ไม่ทราบนามสกุล ราษฎรแขวงสะหวันนะเขต ประเทศ ส.ป.ป.ลาว ที่บริเวณตลาดสวรรค์ชัย และเดินทางกลับข้าม
เข้ามา และถูกเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรมุกดาหาร ประจำสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 มุกดาหาร - สะหวันนะเขต จับกุมได้ดังกล่าว และยังให้การอีกว่าได้รับการว่าจ้างจาก นายเชิด ไม่ทราบนามสกุล คนขับรถยนต์โดยสารประจำทางสาย ยโสธร-กรุงเทพฯ ในราคา 6,000 บาท เพื่อไปส่งให้กับลูกค้าที่ กทม.โดยกระทำมาหลายครั้งแล้ว
นายคงฤทธิ์ ถูกตั้งข้อกล่าวหา “นำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย”
ปัจจุบันกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด (ยาบ้า) ได้ใช้พื้นที่ จ.มุกดาหาร เป็นเส้นทางในการลำเลียงยาเสพติด (ยาบ้า) เข้ามาในประเทศไทย แบบกองทัพมด โดยใช้วิธีการซุกซ่อนมาทางช่องทวารหนัก, พื้นรองเท้า และปะปนมากับสินค้าหนีภาษี ตลอดจนแรงงานต่างด้าว(ลาว) ที่ลักลอบหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย เป็นจำนวนมาก
เนื่องจากความยากจนในประเทศ ประกอบกับผู้ที่รับจ้างขนยาเสพติด (ยาบ้า) มีฐานะร่ำรวยมากขึ้น จากผู้รับจ้างขนมาเป็นผู้ค้ารายย่อย และเป็นผู้ค้ารายใหญ่ จนเป็นแบบอย่างให้กับผู้ที่ยากจน กล้าที่จะรับจ้างขน โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองของไทย ซึ่งทางการของประเทศไทยน่าจะมีมาตรการขั้นเด็ดขาดเพิ่มโทษกับกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดเพื่อมิให้เป็นเยื้องอย่างต่อไป
