ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ โคราชควง ผอ.ช่างสิบหมู่กรมศิลปากร และคณะนักวิชาการ ปีนพิสูจน์อนุสาวรีย์ย่าโม ย้ำรอยตะเข็บที่ศีรษะเป็นการบูรณะของช่างในอดีตที่เจาะเพื่อยึดองค์ย่าโมไม่ให้ล้ม ยันไม่ใช่การเจาะเอาทองคำแน่ ระบุสาเหตุชำรุดเกิดจากการดูแลรักษาและทำความสะอาดไม่ถูกต้อง ด้านจังหวัดเตรียมหางบประมาณบูรณะครั้งใหญ่ คาดใช้เวลาซ่อมแซมไม่เกิน 2 สัปดาห์
วันนี้ (9 พ.ค.) นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายธนะชัย สุวรรณวัฒนะ ผู้อำนวยการสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร และคณะนักวิชาการกรมศิลปากร ได้เดินทางมาตรวจสอบสภาพการชำรุดของอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยได้ใช้บันไดเหล็กมีความสูงประมาณ 4 เมตรขึ้นไปตรวจสอบองค์ย่าโม ขณะที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณรอบๆ ได้เข้ามาร่วมสังเกตการณ์จำนวนมาก
ภายหลังตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว นายธนะชัย สุวรรณวัฒนะ ผู้อำนวยการสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพของอนุสาวรีย์ย่าโมที่มีความสูงรวม 185 ซม.นั้น มีรอยขูดขีด และรอยแตก รอยปะ ชำรุดเสียหายเป็นบางจุด ไม่มากนัก ประชาชนไม่ต้องเห็นห่วง
สาเหตุของการชำรุดเกิดจากการทำความสะอาด และการดูแลรักษาที่ไม่ถูกต้อง ด้วยการใช้แปลงขัดใช้โลหะถูจนเกิดรอย และยังใช้น้ำมันทาเคลือบที่องค์ย่าโมอีก นอกจากนี้ยังมีการปิดแผ่นทองเปลวด้วย ซึ่งล้วนเป็นวิธีการที่ผิดในการดูแลสำริด จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้องค์ย่าโมเกิดการชำรุดขึ้น แต่โดยรวมแล้วถือว่าไม่เสียหายอะไรมากนัก
ส่วนบริเวณศีรษะที่มีรอยตะเข็บ เกิดจากเมื่อครั้งที่มีการบูรณะฐานอนุสาวรีย์ให้สูงขึ้นจากฐานเดิม โดยช่างในสมัยก่อนได้เจาะเพื่อใส่ตัวยึดองค์ย่าโมไม่ให้ล้ม ซึ่งวิธีการจะแตกต่างจากปัจจุบันที่ใช้ตะปูเป็นตัวยึด เมื่อทำการยึดเสร็จแล้วก็นำสำริดมาแปะปิดคืนไว้ที่เดิม
ในช่วงนี้คาดว่าช่างที่ทำอาจจะไม่มีความรู้ และไม่พิถีพิถันมากนัก เพราะคิดว่าจุดดังกล่าวเป็นจุดที่อยู่สูงที่สุดไม่มีใครมองเห็นอยู่แล้ว ประกอบการองค์ย่าโมตั้งตากแดดตากฝนมานานกว่า 50 ปี จึงทำให้รอยตะเข็บถูกดันขึ้นมาจนเป็นรอยแยกขนาดใหญ่ และทำให้รอยตะเข็บดังกล่าวชัดเจนมากขึ้น ไม่ใช่เกิดจากฝีมือของโจรหรือใครมาเจาะเอาทองจากองค์ย่าโมไปเหมือนที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
นายธนะชัย กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาที่ทำให้อนุสาวรีย์ย่าโมชำรุดนั้นจะต้องสร้างความรู้ความเข้าใจในการดูแลรักษาแก่ผู้ดูแลให้ถูกต้อง โดยทางกรมศิลปากรจะส่งเจ้าหน้าที่ลงมาสอนวิธีการดูแลที่ถูกต้องให้ แต่ทั้งนี้จังหวัดจะต้องทำหนังสือขอมายังกรมศิลปากรเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ลงมา
ส่วนการบูรณะซ่อมแซมอนุสาวรีย์นั้น ขณะนี้ทางกรมศิลปากรได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าจะซ่อมแซมส่วนใดบ้าง และต้องใช้งบประมาณมากน้อยเพียงใดแล้วจะแจ้งกลับไปยังทางจังหวัดอีกครั้ง หากงบประมาณดำเนินการพร้อม เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการบูรณะซ่อมแซมทันที ทั้งนี้คงจะต้องใช้งบประมาณของทางจังหวัดเป็นผู้จัดหาให้ เพราะกรมศิลปากรไม่มีงบประมาณในส่วนนี้เลย ส่วนระยะเวลาในการบูรณะซ่อมแซมคาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ โดยการบูรณะนั้นอาจจะต้องล้างและรมดำที่องค์ย่าโมใหม่ ส่วนรอยตะเข็บหรือรอยขูดขีดต่างๆ นั้นจะต้องเก็บใหม่ให้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าโลหะหลายๆ ชนิดที่นำมาหลอมเป็นสำริดเพื่อทำอนุสาวรีย์ย่าโมนั้นจะไม่แยกส่วนออกจากกัน เนื้อโลหะจะหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ฉะนั้นที่เป็นข่าวว่าโลหะแยกส่วนออกจากกันนั้นไม่เป็นความจริง
ด้านนายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรก็ยืนยันชัดเจนว่า การชำรุดเกิดจากการดูแลและทำความสะอาดที่ไม่ถูกต้อง จากนี้ไปคงจะต้องเร่งบูรณะซ่อมแซม เพื่อให้องค์ย่าโมมีความสมบูรณ์ ส่วนงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินการนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีงบประมาณบางส่วนอยู่แล้ว หากไม่เพียงพอจะต้องรับบริจาคจากประชาชนชาวโคราช และทางจังหวัดได้จัดเตรียมงบประมาณส่วนหนึ่งไว้เช่นกัน
การบูรณะซ่อมแซมนั้นจะไม่มีการย้ายอนุสาวรีย์ไปที่อื่น โดยยังคงตั้งไว้ที่จุดเดิมเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สักการะได้ตลอดในช่วงที่มีการบูรณะซ่อมแซม นอกจากนี้ทางจังหวัดยังได้ขอให้ทางกรมศิลปากร ทำการบูรณะซ่อมแซมอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ที่ตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดด้วย เนื่องจากมีสภาพชำรุดเช่นกัน