ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกิดไฟฟ้าเกิดลัดวงจรเผาบ้านกลางชุมชนแออัดวอด สาวโอเกะเห็นเหตุการณ์วิ่งตัดกระแสไฟ ก่อนโห่ร้องเรียกชาวบ้านให้หนีตายจากเปลวเพลิง
เวลา 02.00 น.วันนี้ (27 เม.ย.) พันตำรวจผดุงศักดิ์ ซื่อกำเนิด พนักงานสอบสวน (สบ 2) สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้กลางชุมชนตลาดเก่า 100 ปี เป็นบ้านไม่มีเลขที่อยู่บริเวณถนนชายทะเล หมู่ที่ 1 ซอยชายทะเล 9 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จึงได้ประสาน นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศบาลเมืองสัตหีบ และ นายไพโรจน์ มาลากุล ณ อยุธยา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสัตหีบ เพื่อขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิงทำการดับไฟในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งทางหน่วยบรรเทาสาธารณภัย ของเทศบาลเมืองสัตหีบ และองค์การบริหารส่วนตำบลสัตหีบ ได้ส่งรถน้ำดับเพลิงจำนวน 5 คัน เขาทำการระงับเพลิง
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ไม่มีผู้อยู่อาศัยอยู่ติดริมทะเล เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากกระแสลมจากทะเลพัดแรง อีกทั้งเป็นชุมชนแออัด ทำให้การลำเลียงสายน้ำดับเพลิงเข้าไปยังบ้านที่เกิดเพลิงไหม้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องทำการฉีดน้ำเลี้ยงเพื่อให้เพลิงอยู่ในพื้นที่จำกัด ก่อนจะสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 100,000 บาท
จากการสอบถาม นางศิริพร วรรณสังข์ อายุ 42 ปี เจ้าของบ้าน ได้ให้การว่า บ้านหลังดังกล่าวได้ถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่มีผู้อยู่อาศัยมาประมาณ 1 ปี ซึ่งตนเองได้พักอยู่บ้านญาติในตลาดสัตหีบ และได้มีคนไปแจ้งจึงได้มาดูพบบ้านได้ถูกเพลิงไหม้จนหมด
ส่วนทางด้าน นางสาวจิราพร แป้นจันทร์ อายุ 39 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 101/2 หมู่ที่ 2 ตำบลป่างิ้ว อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย สาวคาราโอเกะในร้านแห่งหนึ่ง เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินไปซื้อข้าวในตลาดโต้รุ่ง ขณะที่เดินผ่านซอยดังกล่าวได้ยินเสียงระเบิดดังมาจากภายในซอย จึงได้วิ่งเข้าไปดูพบเพลิงกำลังลุกไหม้สายไฟนอกตัวบ้าน จากนั้นเพลิงได้ลามเข้าไปในบ้าน และได้ลุกติดฝ้าเพดานซึ่งเป็นไม้อย่างรวดเร็ว จึงได้ตั้งสติวิ่งออกไปที่ถนนและทำการดับคัตเอาต์ ตัดกระแสไฟฟ้า ขณะนั้นชาวบ้านในชุมชนดังกล่าวหลับสนิทไม่มีใครตื่น ตนจึงเกรงเพลิงจะลุกลามจึงได้ตระโกนให้ชาวบ้านตื่นและหนีเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ให้เอาชีวิตรอด
นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสัตหีบ กล่าวว่า นับเป็นความโชคดีที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ทำงานกันอย่างรวดเร็ว และสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ไม่เช่นนั้นประวัติศาสตร์คงต้องซ้ำรอยดังเช่น เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2550 เพลิงได้ลุกไหม้ชุมชนตลาดสัตหีบวอดไปกว่า 30 หลังคาเรือน ทำให้เป็นความทรงจำที่ชาวสัตหีบยากจะลบเลือน