พิจิตร - ข้าวเปลือกขึ้นราคาส่งผลกระทบถึงวงการก่อสร้าง อิฐมอญที่ต้องใช้แกลบเป็นวัสดุในการเผาขึ้นราคาเป็นเท่าตัว ผู้ประกอบการเผาอิฐมอญ ประกาศขึ้นราคาอีก 30-40% ทำเอาผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านเรือนพลอยได้ รับผลกระทบตามไปด้วย
นายประกิจ อยู่คำ อายุ 42 ปี เจ้าของธุรกิจโรงเผาอิฐมอญบ้านดงชาละวัน ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร เปิดเผยว่า จากสภาวะข้าวเปลือกขึ้นราคา ส่งผลให้ราคาข้าวพุ่งสูงไปถึงตันละ 12,000 บาท ทำให้ผลพวงกระทบมาถึงธุรกิจเผาอิฐมอญและธุรกิจรับเหมาก่อสร้างด้วย เนื่องจากการเผาอิฐมอญต้องใช้แกลบเป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิตด้วย ซึ่งในอดีตสมัยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แกลบต่างๆเจ้าของโรงสีบางแห่ง ก็ให้ฟรี แต่ให้เสียค่าใช้จ่ายในการขนบรรทุกออกจากโรงสี แต่ต่อมาเริ่มมีการซื้อขายกันเพียงตันละ 300-400 บาทและขยับขึ้นมาถึง 500 บาท
ล่าสุดเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา โรงสีต่างๆอ้างราคารับซื้อข้าวเปลือกสูงขึ้น จึงขอปรับราคาแกลบเป็นราคาตันละ 900 บาท ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตอิฐมอญสูงขึ้นจากเดิม ที่เคยขายก้อนละ 25-30 สตางค์ ปัจจุบันต้องขอขึ้นราคาขายเป็นราคาก้อนละ 35-40 สตางค์ ทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างที่เคยซื้อไปทำการก่อสร้างบ้านเรือนพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ค่าขนส่งก็พลอยขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้แกลบในจังหวัดพิจิตร ถือว่าอยู่ในสภาวะวิกฤติขาดแคลน เนื่องจากโรงสีกว่า 20 แห่งถูกปิดตัวลง เนื่องจากถูกดำเนินคดีในโครงการรับจำนำข้าว ก็หยุดแปรรูปข้าว ทำให้แกลบมีปริมาณน้อยลง และหาซื้อได้ยากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีโรงงานไฟฟ้าพลังแกลบ ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอบางมูลนาก ก็มีความต้องการแกลบวันละเกือบ 1 พันตัน มากว้านซื้อและทำสัญญาซื้อแกลบกับโรงสีต่างๆ โดยให้ราคาสูงเช่นกัน ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจเผาอิฐมอญต้องประสบปัญหาการหาซื้อแกลบมาใช้เผาอิฐมอญ จนส่งผลกระทบให้ราคาอิฐมอญต้องขยับราคาสูงขึ้นเกือบเท่าตัว อีกทั้งราคารับเหมาก่อสร้างบ้านเรือนที่ต้องใช้อิฐมอญ ก็ต้องขึ้นราคาตามไปด้วย ทั้งนี้เพราะราคาข้าวเปลือกที่พุ่งขึ้นสูงนั้นเอง จึงส่งผลกระทบไปทั่ว