บุรีรัมย์ - รถโดยสารสองแถวบุรีรัมย์กว่า 130 คัน ได้รับผลกระทบจากภาวะราคาน้ำมันแพง ต้องหยุดเดินรถแล้วกว่า 20 คันขณะสหกรณ์เดินรถเสนอขอปรับขึ้นค่าโดยสารแต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ พร้อมเรียกร้องให้รัฐจัดหาน้ำมันราคาถูกให้ผู้ประกอบอาชีพขับรถสองแถวเพื่อความอยู่รอด
วันนี้ (24 เม.ย.) หลังราคาน้ำมันได้ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ผู้ประกอบการขับรถโดยสารสองแถว ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์บริการเดินรถบุรีรัมย์ จำกัด กว่า 130 คัน ได้รับผลกระทบเดือดร้อนหนัก ต้องแบกรับภาระค่าน้ำมันที่ปรับตัวพุ่งสูงขึ้น แต่ค่าโดยสารยังต้องเก็บในราคาเดิมไม่มีการปรับขึ้นตามภาวะราคาน้ำมันแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ถึงแม้นายคมกฤต ศรีวีระพันธ์ ประธานสหกรณ์บริการเดินรถบุรีรัมย์ จำกัด จะทำเรื่องขอปรับค่าโดยสารขึ้นอีกกิโลเมตรละ 50 สตางค์เสนอไปยังสำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้คณะกรรมการระดับจังหวัดพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสาร แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการอนุมัติให้ปรับขึ้นตามที่มีการเสนอขอ ทางกลุ่มสมาชิกรถโดยสารสองแถวจึงได้ปรับค่าโดยสารขึ้นเอง 5 บาท ตลอดเส้นทางวิ่งตามหมู่บ้าน ตำบล เพื่อความอยู่รอด
โดยหลังจากน้ำมันปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้ประกอบอาชีพขับรถสองแถวรับจ้างต้องหยุดเดินรถชั่วคราวไปแล้วกว่า 20 คัน
นายสว่าง สุดตาชาติ อายุ 51 ปี ผู้ประกอบอาชีพขับรถโดยสารสองแถว สมาชิกสหกรณ์บริการเดินรถบุรีรัมย์ จำกัด กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสาร ให้กลุ่มผู้มีอาชีพขับรถสองแถวสามารถอยู่รอดได้ เพราะที่ผ่านมาต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันเที่ยวเดียวไปกลับวันละ 500 บาท บางวันไม่มีผู้โดยสารต้องประสบปัญหาขาดทุน
อีกทั้งขณะนี้ยังต้องลดเที่ยววิ่งจาก 3 เที่ยวเหลือ 1 เที่ยวต่อวัน เพราะไม่สามารถแบกรับภาระค่าน้ำมันแพงได้ จากความเดือดร้อนดังกล่าวอยากเรียกร้องให้มีการพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสาร และให้รัฐจัดหาน้ำมันราคาถูกให้กับผู้มีอาชีพขับรถสองแถวรับจ้าง เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระลดต้นทุนให้สามารถอยู่รอดได้
ด้านนายสมพงษ์ บุญเกตุ อายุ 34 ปี ผู้ประกอบอาชีพขับรถโดยสารสองแถวอีกราย กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลังจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นและแพงเป็นประวัติการณ์ ทำให้ผู้ที่ขับรถโดยสารสองแถวรับจ้างได้รับผลกระทบอย่างหนัก ต้องจ่ายค่าน้ำมันเพิ่มขึ้นแต่รายได้กลับลดลง เพราะปัจจุบันมีผู้โดยสารน้อยลงเนื่องจากหันไปใช้บริการรถชนิดอื่น
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่น้ำมันขึ้นราคาจนถึงขณะนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ตั้งแต่ราคาน้ำมันยังอยู่ที่ลิตรละ 28 บาท แต่ขณะนี้น้ำมันได้พุ่งสูงถึงลิตรละกว่า 30 บาทแล้ว แต่ยังไม่อนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารแต่อย่างใด
ส่วนผู้ที่หยุดเดินรถชั่วคราวก็ใช่ว่าจะไม่เดือดร้อน เพราะทุกเดือนยังต้องจ่ายค่าบำรุงสหกรณ์ฯ เดือนละ 250 บาท เพื่อไม่ให้ขาดการเป็นสมาชิก จึงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เล็งเห็นความเดือดร้อนและหาทางช่วยเหลือด้วย ก่อนที่ผู้ประกอบอาชีพขับรถโดยสารสองแถวจะต้องหยุดเดินรถมากกว่านี้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารสองแถวตามไปด้วย
วันนี้ (24 เม.ย.) หลังราคาน้ำมันได้ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ผู้ประกอบการขับรถโดยสารสองแถว ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์บริการเดินรถบุรีรัมย์ จำกัด กว่า 130 คัน ได้รับผลกระทบเดือดร้อนหนัก ต้องแบกรับภาระค่าน้ำมันที่ปรับตัวพุ่งสูงขึ้น แต่ค่าโดยสารยังต้องเก็บในราคาเดิมไม่มีการปรับขึ้นตามภาวะราคาน้ำมันแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ถึงแม้นายคมกฤต ศรีวีระพันธ์ ประธานสหกรณ์บริการเดินรถบุรีรัมย์ จำกัด จะทำเรื่องขอปรับค่าโดยสารขึ้นอีกกิโลเมตรละ 50 สตางค์เสนอไปยังสำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้คณะกรรมการระดับจังหวัดพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสาร แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการอนุมัติให้ปรับขึ้นตามที่มีการเสนอขอ ทางกลุ่มสมาชิกรถโดยสารสองแถวจึงได้ปรับค่าโดยสารขึ้นเอง 5 บาท ตลอดเส้นทางวิ่งตามหมู่บ้าน ตำบล เพื่อความอยู่รอด
โดยหลังจากน้ำมันปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้ประกอบอาชีพขับรถสองแถวรับจ้างต้องหยุดเดินรถชั่วคราวไปแล้วกว่า 20 คัน
นายสว่าง สุดตาชาติ อายุ 51 ปี ผู้ประกอบอาชีพขับรถโดยสารสองแถว สมาชิกสหกรณ์บริการเดินรถบุรีรัมย์ จำกัด กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสาร ให้กลุ่มผู้มีอาชีพขับรถสองแถวสามารถอยู่รอดได้ เพราะที่ผ่านมาต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันเที่ยวเดียวไปกลับวันละ 500 บาท บางวันไม่มีผู้โดยสารต้องประสบปัญหาขาดทุน
อีกทั้งขณะนี้ยังต้องลดเที่ยววิ่งจาก 3 เที่ยวเหลือ 1 เที่ยวต่อวัน เพราะไม่สามารถแบกรับภาระค่าน้ำมันแพงได้ จากความเดือดร้อนดังกล่าวอยากเรียกร้องให้มีการพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสาร และให้รัฐจัดหาน้ำมันราคาถูกให้กับผู้มีอาชีพขับรถสองแถวรับจ้าง เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระลดต้นทุนให้สามารถอยู่รอดได้
ด้านนายสมพงษ์ บุญเกตุ อายุ 34 ปี ผู้ประกอบอาชีพขับรถโดยสารสองแถวอีกราย กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลังจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นและแพงเป็นประวัติการณ์ ทำให้ผู้ที่ขับรถโดยสารสองแถวรับจ้างได้รับผลกระทบอย่างหนัก ต้องจ่ายค่าน้ำมันเพิ่มขึ้นแต่รายได้กลับลดลง เพราะปัจจุบันมีผู้โดยสารน้อยลงเนื่องจากหันไปใช้บริการรถชนิดอื่น
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่น้ำมันขึ้นราคาจนถึงขณะนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ตั้งแต่ราคาน้ำมันยังอยู่ที่ลิตรละ 28 บาท แต่ขณะนี้น้ำมันได้พุ่งสูงถึงลิตรละกว่า 30 บาทแล้ว แต่ยังไม่อนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารแต่อย่างใด
ส่วนผู้ที่หยุดเดินรถชั่วคราวก็ใช่ว่าจะไม่เดือดร้อน เพราะทุกเดือนยังต้องจ่ายค่าบำรุงสหกรณ์ฯ เดือนละ 250 บาท เพื่อไม่ให้ขาดการเป็นสมาชิก จึงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เล็งเห็นความเดือดร้อนและหาทางช่วยเหลือด้วย ก่อนที่ผู้ประกอบอาชีพขับรถโดยสารสองแถวจะต้องหยุดเดินรถมากกว่านี้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารสองแถวตามไปด้วย
