เชียงราย - ประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 17 จังหวัดภาคเหนือ และประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จ.เชียงราย ไม่หวาดหวั่นหลังมีประกาศยกเลิกกฏอัยการศึก ระบุน่าจะหันหน้าเข้าหากัน ยุติเรื่องการใช้กำลังหรือระดมมวลชน เข้ามาเพื่อต่อรองจะดีที่สุด
นายอินหวัน บั้งเงิน ประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 17 จังหวัดภาคเหนือ และประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จ.เชียงราย กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งยกเลิกกฎอัยการศึก ว่า ถือเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองอีกครั้ง ซึ่งเดิม จ.เชียงราย ที่ถูกมองว่าเป็นฐานการเมืองใหญ่ ได้ถูกคงกฎอัยการศึกไว้ถึง 9 อำเภอ ทำให้การเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนต่างๆ ในพื้นที่เงียบหายไป เมื่อมีคำสั่งยกเลิกกฏอัยการ ในฐานะประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นอีกชมรมหนึ่งที่ถูกจับตา เนื่องจากมีผู้นำท้องถิ่นบางส่วนในหลายจังหวัด เข้าไปสนับสนุนกลุ่มนักการเมืองอยู่ ไม่ได้หวาดหวั่นว่าสมาชิกในชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะที่เชียงราย จะเคลื่อนไหวก่อกวนสร้างสถานการณ์บ้านเมืองให้วุ่นวาย อย่างเช่นแต่ก่อน เพราะคนพวกนี้ได้รับบทเรียนมาก็มาก หากกระทำการใดๆ โดยไม่คิดผลเสียย่อมเกิดขึ้นกับตัวเอง หากจะเคลื่อนไหวทำสิ่งใดหลังจากมีคำสั่งเลิกกฎอัยการศึกนี้ ขอให้ทบทวนและไตร่ตรอง ให้กระทำอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย เพื่อไม่ให้ล้ำเส้นระหว่างกัน
“การเมืองเดินทางมาถึงจุดนี้แล้ว ควรหันหน้าเข้าหากัน ยุติเรื่องการใช้กำลังหรือระดมมวลชน เข้ามาเพื่อต่อรองจะดีที่สุด การมีกฎอัยการศึก ย่อมทำให้บรรยากาศการเมือง เวทีแห่งการแสดงออกทางความคิดด้านต่างๆ ไม่สามารถกระทำได้ ทุกฝ่ายรู้สึกอึดอัด และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายออกมาในทางที่ดีเช่นนี้ ผู้นำชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ควรจะร่วมสร้างบรรยากาศอันสงบ ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญไทย วางตัวเป็นกลาง อย่าเอนเอียงฝักใฝ่การเมืองจนเกินบทบาท นับเป็นการแสดงจุดยืนที่ดีที่สุดในขณะนี้” นายอินหวัน กล่าว
นายอินหวัน บั้งเงิน ประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 17 จังหวัดภาคเหนือ และประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จ.เชียงราย กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งยกเลิกกฎอัยการศึก ว่า ถือเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองอีกครั้ง ซึ่งเดิม จ.เชียงราย ที่ถูกมองว่าเป็นฐานการเมืองใหญ่ ได้ถูกคงกฎอัยการศึกไว้ถึง 9 อำเภอ ทำให้การเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนต่างๆ ในพื้นที่เงียบหายไป เมื่อมีคำสั่งยกเลิกกฏอัยการ ในฐานะประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นอีกชมรมหนึ่งที่ถูกจับตา เนื่องจากมีผู้นำท้องถิ่นบางส่วนในหลายจังหวัด เข้าไปสนับสนุนกลุ่มนักการเมืองอยู่ ไม่ได้หวาดหวั่นว่าสมาชิกในชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะที่เชียงราย จะเคลื่อนไหวก่อกวนสร้างสถานการณ์บ้านเมืองให้วุ่นวาย อย่างเช่นแต่ก่อน เพราะคนพวกนี้ได้รับบทเรียนมาก็มาก หากกระทำการใดๆ โดยไม่คิดผลเสียย่อมเกิดขึ้นกับตัวเอง หากจะเคลื่อนไหวทำสิ่งใดหลังจากมีคำสั่งเลิกกฎอัยการศึกนี้ ขอให้ทบทวนและไตร่ตรอง ให้กระทำอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย เพื่อไม่ให้ล้ำเส้นระหว่างกัน
“การเมืองเดินทางมาถึงจุดนี้แล้ว ควรหันหน้าเข้าหากัน ยุติเรื่องการใช้กำลังหรือระดมมวลชน เข้ามาเพื่อต่อรองจะดีที่สุด การมีกฎอัยการศึก ย่อมทำให้บรรยากาศการเมือง เวทีแห่งการแสดงออกทางความคิดด้านต่างๆ ไม่สามารถกระทำได้ ทุกฝ่ายรู้สึกอึดอัด และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายออกมาในทางที่ดีเช่นนี้ ผู้นำชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ควรจะร่วมสร้างบรรยากาศอันสงบ ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญไทย วางตัวเป็นกลาง อย่าเอนเอียงฝักใฝ่การเมืองจนเกินบทบาท นับเป็นการแสดงจุดยืนที่ดีที่สุดในขณะนี้” นายอินหวัน กล่าว
