กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านเผยทำบุญบ้านวันเดือนดับแรม 15 ค่ำ เดือน 4 อาจเป็นต้นเหตุการณ์เกิดอาเพศพายุฤดูร้อน พายุลูกเห็บพัดถล่มบ้านเสียวรุนแรงที่สุดตั้งแต่ตั้งหมู่บ้าน ด้านผู้เห็นเหตุการณ์ยันเกิดปรากฏการณ์ท้องฟ้าแดงก่อนมีพายุหมุนเข้ามา
จากเหตุการณ์พายุฤดูร้อน และพายุลูกเห็บพัดถล่มบ้านเสียวและบ้านใกล้เคียงครอบคลุมทั้ง 11 หมู่บ้าน ภายใน ต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เสียหายกว่า 600 หลังคาเรือน มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท โดยแรงลมยังพัดเอาสังกะสีเข้าไปตัดลำตัวนายไชยยงค์ ภูกะฐิน อายุ 37 ปี เลขที่ 146 หมู่ที่ 1 บ้านเสียว จนเกือบขาดเสียชีวิตคาที่ และมีผู้บาดเจ็บอีก 8 ราย
โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ล่าสุดทาง จ.กาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ ซึ่งชาวบ้านต่างก็ทยอยต่อเติมและซ่อมแซมบ้านเรือนของตนเองบางแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุชาวบ้านเชื่อว่าเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นปกติในช่วงฤดูร้อน แต่ก็มีอีกบางส่วนเชื่อว่าสาเหตุที่พายุพัดถล่มรุนแรงตั้งแต่ก่อตั้งหมู่บ้านครั้งนี้น่าจะมาจากการที่ชาวบ้านได้ร่วมกันกำหนดวันและจัดงานบุญประจำปี บุญบ้าน หรือบุญผะเหวด ในวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันเดือนดับ คือแรม 15 ค่ำเดือน 4 ซึ่งวันต่อไปจะเป็น ขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 โดยวันดังกล่าวถือเป็นวันที่ฤกษ์ดีนัก จึงเกิดเหตุการณ์อาเพศขึ้น
นายเกษม พาชานัย อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.1 บ้านเสียว ต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุขณะที่ตนกับครอบครัวกำลังรับประทานอาหารเย็นอยู่ ได้ยินเสียงฝนตก จึงออกมาดู ซึ่งก็พบว่าท้องฟ้ามีสีแดง จากนั้นไม่กี่นาทีก็มีลมพายุหมุนพัดเข้ามาในหมู่บ้านและยังมีลูกเห็บตกลงมาอย่างหนัก ตนและครอบครัวจึงหาสถานที่ปลอดภัยหลบเอาตัวรอด ซึ่งพอพายุสงบลงก็พบว่าบ้านเรือนของตนและบ้านเรือนของเพื่อนบ้านถูกพายุลมพัดเสียหายเกือบทั้งหลัง
นายเกษม กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุพายุพัดถล่ม ชาวบ้านบอกว่าเป็นพายุที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นปกติในช่วงฤดูแล้ง อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งที่เชื่อว่าสาเหตุของการเกิดพายุครั้งนี้มาจากการที่ชาวบ้านได้ร่วมกันกำหนดวันและจัดงานบุญประจำปี บุญบ้าน หรือบุญผะเหวด ในวันที่ 5 เมษายน ตรงกับวันเดือนดับ แรม 15 ค่ำเดือน 4 ซึ่งเป็นวันที่ฤกษ์ไม่ดี เพราะเป็นวันเดือนดับ โดยที่ผ่านมาผู้เฒ่า ผู้แก่ จะไม่ให้จัดงานบุญในวันดังกล่าว เพราะจะเกิดเหตุอาเพศขึ้นได้
ด้าน นายประจบ ภูเผ่า อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.6 บ้านเสียว ต.หัวงัว อ.ยางตลาด กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุได้ตะโกนร้องบอกคนในครอบครัวให้เข้าไปหลบในสถานที่ปลอดภัย เพราะเชื่อว่าพายุครั้งนี้ จะมีความรุนแรงและสร้างความเสียหายจำนวนมาก เพราะก่อนเกิดเหตุท้องฟ้าแดงอร่าม ซึ่งเป็นลางบอกเหตุว่าพายุหมุน ลูกเห็บ หรือที่คนโบราณเข้าเรียกว่า"ลมแดง"จะพัดเข้ามา ซึ่งหากลมแดงพัดเข้ามาเมื่อไหร่ก็จะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุชาวบ้านต่างร่ำลือว่าสาเหตุอาจจะมาจากการจัดงานบุญบ้านประจำปี ในวันที่ไม่เป็นมงคล หรือวันเดือนดับ จึงเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ขึ้น สร้างความเสียหายจำนวนมาก ทั้งนี้บางคนก็เชื่อว่าเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพราะจังหวัดกาฬสินธุ์เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวในหลายพื้นที่ แต่ก็ไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้
ขณะที่ นายประชา จิตสุทธิผล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุการณ์พายุพัดแรงหลายครั้งในพื้นที่ ได้วิทยุสั่งการไปยัง 18 อำเภอให้เฝ้าระวังความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินของราษฎรเพิ่มมากขึ้น เพราะช่วงนี้ยังมีความเสี่ยงในการเกิดพายุฤดูร้อน พายุลูกเห็บขึ้นอีก
เนื่องจากรายงานของสถานีอุตุนิยมวิทยา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ แจ้งว่าถึงแม้ช่วงนี้จะยังไม่มีฝนแต่จะสามารถเกิดลมพายุค่อนข้างแรงได้โดยเฉพาะในพื้นที่ราบ ประชาชนควรที่จะรับฟังข่าวสารพยากรณ์อย่างใกล้ชิดและหลีกเลี่ยงออกจากพื้นที่เสี่ยงหากเกิดลมแรงหรือฟ้าคะนอง