มหาสารคาม - ภัยแล้งมหาสารคามส่อเค้าใกล้วิกฤตเหตุปริมาณกักเก็บน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งจังหวัดลดลงอย่างรวดเร็ว เผยปริมาณน้ำโดยรวม ณ ปัจจุบันของอ่างเก็บน้ำทั้งหมดเหลือเพียง 55.04% ชี้อ่างเก็บหลัก 2 แห่งของจังหวัดเหลือน้ำไม่ถึง 20% วอนประชาชนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด ประครองสถานการณ์ให้ผ่านพ้นหน้าแล้ง
นายวรรัตน์ ประวาลปัทมกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานมหาสารคาม กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ ส่อเค้ารุนแรง กว่าทุกปี พื้นที่ประสบภัยแล้งขยายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตลุ่มน้ำชี บางส่วนของอำเภอโกสุมพิสัย กันทรวิชัย อำเภอเมือง และอำเภอเชียงยืน รวมถึงอีก 9 อำเภอของจังหวัดมหาสารคาม โดยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 17 แห่ง และลำห้วยสาขาที่กระจายไปทั่วทุกอำเภอ พบว่าปริมาณน้ำที่เก็บกักไว้ลดระดับลงอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลล่าสุดพบว่า ภาพรวมปริมาณน้ำ ณ ปัจจุบันของอ่างเก็บน้ำเหลือเพียง 67.79 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 55.04 ของปริมาณน้ำที่ความจุอ่างเก็บกักได้สูงสุดที่ 81.20 ล้านลูกบาศก์เมตร
นอกจากนี้ยังพบว่า อ่างเก็บน้ำหนองกระทุ่ม ในเขตอำเภอเมือง และอ่างเก็บน้ำหนองคูขาด อำเภอบรบือ ระดับน้ำอยู่ในขั้นวิกฤต โดยอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่งมีระดับเก็บกับไม่ถึงร้อยละ 20 ของความจุอ่าง ส่วนอ่างเก็บน้ำหนองไฮ อำเภอวาปีปทุม และอ่างเก็บน้ำร่องหัวช้างอำเภอบรบือ มีปริมาณเก็บกักเหลือไม่ถึงร้อยละ 50 ของความจุอ่าง
ขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยกันประหยัดการใช้น้ำ รักษาแหล่งน้ำให้สะอาด ไม่ควรปลูกพืชทุกชนิดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำที่อยู่ในขั้นวิกฤตดังกล่าว เพื่อเก็บสำรองน้ำไว้เป็นแหล่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน และเก็บไว้เลี้ยงสัตว์ตลอดช่วงฤดูแล้ง โดยได้ประสานหน่วยงานในพื้นที่ เตรียมการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย เพื่อให้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งให้น้อยที่สุด