ศูนย์ข่าวศรีราชา - แก๊งค้าปืนเถื่อนและยาบ้าสัตหีบหักกันเอง เจอบุกยิงขณะนั่งทอดอารมณ์พิงกรงไม้หน้าบ้านเช่า มัจจุราชย่องเงียบยิงที่คอ 2 ยัด ศีรษะ 2 นัดดับอนาถ ตำรวจสงสัยฝีมือ “ไอ้ดำ-ไอ้สนอง” ดาวร้ายประจำถิ่น
เวลา 12.00 น.วันนี้ (17 เม.ย.) ร้อยตำรวจตรี ศุภรัตน์ ลัทธิปรีชา พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจากดาบตำรวจปรีชา สุวรรณวัฒนา ตำรวจป้อมยามบ้านเตาถ่าน ว่า ได้เกิดคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกเข้าไปยิง นายนรินทร์ ชลประชา หรือ เปี๊ยก อายุ 44 ปี ในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 7 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ เสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมทั้งรายงานให้ พันตำรวจเอก สุภธีร์ บุญครอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ทราบ
ต่อมา พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง พันตำรวจโท สุธรรม ชาวสีทอง สารวัตรปราบปราม พันตำรวจตรี วันชัย ทุมทอง สารวัตรสืบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างของ นายนรินทร์ ชลประชา หรือเปี๊ยก นอนคว่ำหน้าจอมกองเลือด ถอดเสื้อ สวมกางเกงยีนส์อยู่ชานหน้าบ้านพักเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 7 ตำบลสัตหีบ ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายรุ่งโรจน์ นทีบุปผา หรือดำ ภายในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนขนาด .22 จำนวน 1 หัว มีอุปกรณ์เสพยาบ้า หลอดกาแฟสำหรับบรรจุยาบ้า จำนวนมาก
จากการสอบถามบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุไม่มีใครให้ข้อมูล หรือเป็นพยานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด เพราะเกรงกลัวอิทธิพลเถื่อนพวกแก๊งค้าปืนเถื่อน และค้ายาบ้าในบริเวณดังกล่าว ทราบแต่เพียงว่าเวลากลางคืนจะมีการยิงปืนกันเป็นประจำ เพื่อแสดงถึงเป็นผู้ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และยังเป็นการเขียนเสือให้วัวกลัว จะได้ไม่มีใครกล้านำข้อมูลเลวร้ายในบริเวณดังกล่าวไปแจ้งให้ตำรวจทราบ แต่ก็ทราบว่า ปืนขนาด .22 มม.มีคนหมู่บ้านนี้ใช้อยู่ 1 คน เท่านั้น
พันตำรวจเอก สุภธีร์ บุญครอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ กล่าวว่า หลังจากที่สิ้นเสียงปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าในพื้นที่อย่างรวดเร็ว มีพยานเห็นว่าได้มี นายสนอง บุญยไทย อายุ 40 ปี หรือ เปี๊ยก อดีตจ่าทหารเรือ ขี่รถจักรยานยนต์รุ่นเก่าออกไปจากที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ได้ติดตามตัวมาสอบสวนและมีบุคคลที่น่าสงสัยอีกคนหนึ่ง คือ นายดำ หรือ นายรุ่งโรจน์ นทีบุบผา เจ้าของบ้านที่มีอาวุธปืนขนาด .22 มม.ไว้ในครอบครอง อีกทั้งนำออกมายิงเล่นบ่อยครั้ง ซึ่งจะได้ออกติดตามจับตัวมาสอบสวนอย่างละเอียดว่าเป็นผู้ลงมือยิง นายนรินทร์ ชลประชา หรือไม่
เวลา 12.00 น.วันนี้ (17 เม.ย.) ร้อยตำรวจตรี ศุภรัตน์ ลัทธิปรีชา พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจากดาบตำรวจปรีชา สุวรรณวัฒนา ตำรวจป้อมยามบ้านเตาถ่าน ว่า ได้เกิดคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกเข้าไปยิง นายนรินทร์ ชลประชา หรือ เปี๊ยก อายุ 44 ปี ในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 7 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ เสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมทั้งรายงานให้ พันตำรวจเอก สุภธีร์ บุญครอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ทราบ
ต่อมา พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง พันตำรวจโท สุธรรม ชาวสีทอง สารวัตรปราบปราม พันตำรวจตรี วันชัย ทุมทอง สารวัตรสืบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างของ นายนรินทร์ ชลประชา หรือเปี๊ยก นอนคว่ำหน้าจอมกองเลือด ถอดเสื้อ สวมกางเกงยีนส์อยู่ชานหน้าบ้านพักเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 7 ตำบลสัตหีบ ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายรุ่งโรจน์ นทีบุปผา หรือดำ ภายในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนขนาด .22 จำนวน 1 หัว มีอุปกรณ์เสพยาบ้า หลอดกาแฟสำหรับบรรจุยาบ้า จำนวนมาก
จากการสอบถามบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุไม่มีใครให้ข้อมูล หรือเป็นพยานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด เพราะเกรงกลัวอิทธิพลเถื่อนพวกแก๊งค้าปืนเถื่อน และค้ายาบ้าในบริเวณดังกล่าว ทราบแต่เพียงว่าเวลากลางคืนจะมีการยิงปืนกันเป็นประจำ เพื่อแสดงถึงเป็นผู้ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และยังเป็นการเขียนเสือให้วัวกลัว จะได้ไม่มีใครกล้านำข้อมูลเลวร้ายในบริเวณดังกล่าวไปแจ้งให้ตำรวจทราบ แต่ก็ทราบว่า ปืนขนาด .22 มม.มีคนหมู่บ้านนี้ใช้อยู่ 1 คน เท่านั้น
พันตำรวจเอก สุภธีร์ บุญครอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ กล่าวว่า หลังจากที่สิ้นเสียงปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าในพื้นที่อย่างรวดเร็ว มีพยานเห็นว่าได้มี นายสนอง บุญยไทย อายุ 40 ปี หรือ เปี๊ยก อดีตจ่าทหารเรือ ขี่รถจักรยานยนต์รุ่นเก่าออกไปจากที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ได้ติดตามตัวมาสอบสวนและมีบุคคลที่น่าสงสัยอีกคนหนึ่ง คือ นายดำ หรือ นายรุ่งโรจน์ นทีบุบผา เจ้าของบ้านที่มีอาวุธปืนขนาด .22 มม.ไว้ในครอบครอง อีกทั้งนำออกมายิงเล่นบ่อยครั้ง ซึ่งจะได้ออกติดตามจับตัวมาสอบสวนอย่างละเอียดว่าเป็นผู้ลงมือยิง นายนรินทร์ ชลประชา หรือไม่
