อุบลราชธานี - ตร.อำนาจเจริญทำเก๋รับฝากบ้านไม่พอรับฝากรถ จยย.ช่วงสงกรานต์ เพื่อลดอัตราการบาดเจ็บ และเน้นปราบปรามยาเสพติดจากประเทศลาวทะลักเข้าไทย โดยมีสองผัวเมียไทยลาวถูกรวบขณะซุกยาบ้าใต้พื้นรองเท้าแตะ เตรียมนำส่งขบวนค้ายาเสพติดข้ามชาติในกรุงเทพฯ
วันนี้ (10 เม.ย.) พล.ต.ต.สุพรรณ ประเสริฐสม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ปล่อยแถวกำลังผสมตำรวจบ้าน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเมือง และตำรวจภูธร โดยเน้นปราบปรามความผิดในกรณีข่มขืนกระทำชำเรา ฆ่าผู้อื่น ทำร้ายร่างกาย การพนัน และยาเสพติด เพื่อป้องปรามไม่ให้คนร้ายก่อเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์
โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดจะมีการระดมตรวจค้นยานพาหนะที่เดินทางมาจากอำเภอชายแดนที่ติดต่อกับประเทศลาว เพราะขบวนการค้ายาเสพติดมักอาศัยจังหวะช่วงเทศกาลซุกซ่อนลักลอบนำยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทย ก่อนส่งต่อเข้าไปจำหน่ายยังส่วนกลางของประเทศ
พล.ต.ต.สุพรรณ เปิดเผยว่า ช่วง 7 วันอันตรายของเทศกาลสงกรานต์ นอกจากจะเน้นตรวจจับยาเสพติดที่ถูกลักลอบลำเลียงเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพื้นที่นี้แล้ว ตำรวจภูธรภาค 3 ยังมีโครงการฝากรถจักรยานยนต์เพิ่มเติมจากโครงการฝากบ้าน เพื่อให้ผู้ปกครองนำรถจักรยานยนต์ที่ลูกหลานใช้ขับขี่มาฝากไว้กับตำรวจ ลูกหลานจะได้ไม่นำรถจักรยานยนต์ไปขับขี่จนเกิดอันตรายในเทศกาลนี้
และขณะนี้กำลังเร่งให้ทุกสถานีประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบที่มาของโครงการ พร้อมแจ้งยอดการนำรถมาฝากของประชาชน หากได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จะนำโครงการนี้มาปรับใช้ในเทศกาลสำคัญอื่นๆต่อไปด้วย
ต่อมาขณะที่ พ.ต.อ.วีระพงษ์ พงษ์พุ่ม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จ.อำนาจเจริญ นำกำลังตั้งจุดตรวจค้นบนถนนอรุณประเสริฐ ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อระหว่างอำเภอเมืองอำนาจเจริญกับอำเภอเขมราฐ จ.อุบลราชธานี พบรถยนต์โดยสารวิ่งระหว่างเขมราฐ-กรุงเทพฯ จึงเรียกตรวจค้น เพราะได้รับแจ้งจากสายมีสองผัวเมียชาวไทยและลาว ลักลอบซุกซ่อนยาบ้าโดยสารมากับรถคันดังกล่าว เพื่อลำเลียงไปขายที่กรุงเทพฯ
ต่อมาพบ นายนวน โคตรสมบัติ อายุ 26 ปี ราษฎรบ้านนายูง เมืองสะหวันนะเขต ประเทศลาว และนางจิตนา สินหมั่น อายุเท่ากันเป็นราษฎรไทยอยู่บ้านเลขที่ 236 หมู่ 7 ต.วังยาง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ทั้ง 2 เป็นบุคคลตรงตามที่สายรายงาน จึงเชิญตัวมาตรวจค้น
จากการตรวจค้นพบรองเท้าแตะ 2 คู่อยู่ในกระเป๋าถือ และที่พื้นรองเท้ามีร่องรอยการทากาวใหม่ๆ เมื่องัดพื้นรองเท้าออกดูพบยาบ้าเม็ดสีส้มซ่อนอยู่จำนวน 2,884 เม็ด จึงตรวจยึดไว้พร้อมธนบัตรไทยคิดเป็นมูลค่า 22,280 บาท ธนบัตรลาวคิดเป็นมูลค่า 11,500 กีบ โทรศัพท์มือถือ หนังสือเดินทางเข้าออกประเทศไทยของคนทั้ง 2
จากการสอบสวนนายนวนให้การรับสารภาพว่าเป็นสามีภรรยากัน และรับจ้างขนยาบ้าให้กับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยจะได้เงินค่าจ้างเที่ยวละ 15,000 บาท และทำมาหลายครั้งจนกระทั่งถูกจับได้ดังกล่าว จึงคุมตัวไว้ดำเนินคดีและจะได้ขยายผลตามจับคนในขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป