เชียงราย - กองปราบฯ จ่อออกหมายเรียก “กำนันชัยวัฒน์” พยานปากเอกคดีใบแดง “ยุทธ ตู้เย็น” ฉบับ 2 ในคดี “ยงยุทธ” แจ้งกลับอดีตผู้สมัครชาติไทย ฐานให้การเท็จ หลังหมายเรียกครั้งแรกไม่พบตัว ขีดเส้น 10 เม.ย.หากยังไม่พบออกหมายจับแน่ ขณะชาวบ้านลือสะพัดกำนันดังเสียชีวิตแล้ว
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.จารุวัฒน์ ไวศยะ รองผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม ยังคงเดินหน้าคดีเกี่ยวกับนายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย พยานปากเอกในคดีใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช อย่างเต็มที่ โดยล่าสุดเมื่อ 6 เม.ย.51 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.โกมล สืบจากลี พนักงานสอบสวน (สบ.3) กองปราบปราม ให้เตรียมออกหมายเรียกฉบับที่ 2 เรียกตัวนายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ มารับทราบข้อกล่าวหาในคดีที่นายยงยุทธเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม กล่าวหานายวิจิตร ยอดสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรคชาติไทย ที่ได้แจ้งความกล่าวว่าซื้อเสียงเลือกตั้ง โดยมีนายชัยวัฒน์ เป็นผู้ให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าพนักงาน มาพบพนักงานสอบสวนครั้งที่ 2 ซึ่งหลังการติดตามไปพร้อมหมายเรียก ครั้งที่ 1 ไม่พบตัวนายชัยวัฒน์
รายงานข่าวจากตำรวจกองปราบปรามที่เข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงราย ระบุว่า ในวันที่ 10 เมษายน 2551 คือวันที่พนักงานสอบสวนกำหนดเรียกตัวนายชัยวัฒน์เข้าพบเป็นวันสุดท้าย ซึ่งหลังจากนี้หากนายชัยวัฒน์ยังไม่พบพนักงานสอบสวน กองปราบปรามก็ออกหมายจับกุมตัวฐานขัดหมายเรียกต่อไป
แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชาชน อ้างว่า การกล่าวหานายยงยุทธในคดีซื้อเสียงมีเบื้องหน้าเบื้องหลังชัดเจน จนทำให้ล่าสุดทางพรรคประชาธิปัตย์ได้ออกมาเคลื่อนไหวกดดัน กกต.กลางให้คุ้มครองครอบครัวนายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ ซึ่งจากการตรวจสอบไปยังสาระบบทะเบียนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กลับพบด้วยว่านายชัยวัฒน์มีรายชื่อเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อีกด้วยจึงทำให้วิเคราะห์ได้ว่าคดีกล่าวหาซื้อเสียงเลือกตั้งครั้งนี้มีการวางแผนจัดฉากอย่างแนบเนียน ซึ่งตัวนายยงยุทธก็ทราบดีว่าเป็นฝีมือใคร สั่งนัดวางแผนและกินข้าว ณ ที่ใดบ้าง ในจังหวัดเชียงราย โดยมีเจ้าหน้าที่บางคน เข้าร่วมทุกขั้นตอน
แหล่งข่าวจาก พปช.คนเดิม พยายามย้ำว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างนายชัยวัฒน์ กับนายยงยุทธ คนในพื้นที่รู้ดีว่าสนิทแนบแน่นขนาดไหน หากนายยงยุทธสั่งวางแผนซื้อเสียงจริง และมีการจ่ายเงินให้นายชัยวัฒน์ ตามที่ถูกกล่าวหา ทำไมนายชัยวัฒน์จึงต้องหักหลัง ทำไมต้องเข้าเป็นพยาน ทั้งๆ ที่เคยทำงานรับใช้กันมาก่อน ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลเพียงพอ นอกเสียจากว่านายชัยวัฒน์จะทำงานให้คนของนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามของแล้วมาจัดฉากสร้างเรื่องกล่าวหานายยงยุทธ เพื่อให้มีผลทางการเมืองนั่นเอง
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ขณะนี้มีการแพร่สะพัดข่าวลือว่านายชัยวัฒน์ได้เสียชีวิตไปแล้ว