ศูนย์ข่าวศรีราชา - ททท.พัทยา เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ลงสังเกตสถานการณ์น้ำทะเลบางแสน หลังพบน้ำทะเลกลายเป็นสีเขียวและส่งกลิ่นเน่าเหม็น มั่นใจหน่วยงานเกี่ยวข้องจะหาสาเหตุที่แท้จริงได้ในเร็ววัน และจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาวการณ์ท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ร.ต.ชัยวัฒน์ เจริญสูข ผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลางเขต 3(พัทยา) เผยถึงการเปลี่ยนสีของน้ำทะเลบางแสน และมีกลิ่นเน่าเหม็นของสาหร่ายจำนวนมากที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ว่า ในส่วนของ ททท.พัทยา มิได้นิ่งนอนใจและกำลังจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าสังเกตสถานการณ์น้ำทะเล เพื่อประเมินหาสาเหตุการเปลี่ยนสีน้ำทะเล ว่า เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ หรือการปล่อยสารเคมีของผู้ประกอบการ
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบแล้ว และคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะการท่องเที่ยวของชายหาดบางแสน ซึ่งหากเป็นเหตุการณ์ ที่เกิดจากภาวะทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในระยะเวลาไม่นานก็จะกลับคืนสู่ภาวะปกติ แต่หากตรวจสอบพบว่าเป็นการปล่อยของเสียลงสู่ทะเล ก็จะต้องมีการสืบหาต้นตอต่อไป
“ททท.ไม่ใช่หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงในการดูแลปัญหาที่เกิดขึ้น ว่า เกิดจากสาเหตุใด แต่ในฐานะที่เราเป็นหน่วยงานทางการท่องเที่ยวจะเข้าไปสังเกตการณ์ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของชายหาดบางแสนหรือไม่ และคิดว่าในขณะนี้เทศบาลเมืองแสนสุข ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลแล้ว เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่โดยตรง ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ของจังหวัดจะเร่งทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว”
ผอ.ททท.ยืนยันว่า การเปลี่ยนสีของน้ำทะเลจะแก้ไขได้ทันก่อนจะถึงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งชายหาดบางแสน จะเป็นสถานที่สำคัญของการจัดงานประเพณีสงกรานต์บางแสน และคาดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากผู้เข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์ในบางแสนจะเล่นน้ำจืดมากกว่าน้ำทะเล ที่สำคัญระยะเวลาที่เหลืออีก 2 สัปดาห์น่าจะหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อแก้ไขได้
ร.ต.ชัยวัฒน์ เจริญสูข ผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลางเขต 3(พัทยา) เผยถึงการเปลี่ยนสีของน้ำทะเลบางแสน และมีกลิ่นเน่าเหม็นของสาหร่ายจำนวนมากที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ว่า ในส่วนของ ททท.พัทยา มิได้นิ่งนอนใจและกำลังจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าสังเกตสถานการณ์น้ำทะเล เพื่อประเมินหาสาเหตุการเปลี่ยนสีน้ำทะเล ว่า เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ หรือการปล่อยสารเคมีของผู้ประกอบการ
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบแล้ว และคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะการท่องเที่ยวของชายหาดบางแสน ซึ่งหากเป็นเหตุการณ์ ที่เกิดจากภาวะทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในระยะเวลาไม่นานก็จะกลับคืนสู่ภาวะปกติ แต่หากตรวจสอบพบว่าเป็นการปล่อยของเสียลงสู่ทะเล ก็จะต้องมีการสืบหาต้นตอต่อไป
“ททท.ไม่ใช่หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงในการดูแลปัญหาที่เกิดขึ้น ว่า เกิดจากสาเหตุใด แต่ในฐานะที่เราเป็นหน่วยงานทางการท่องเที่ยวจะเข้าไปสังเกตการณ์ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของชายหาดบางแสนหรือไม่ และคิดว่าในขณะนี้เทศบาลเมืองแสนสุข ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลแล้ว เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่โดยตรง ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ของจังหวัดจะเร่งทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว”
ผอ.ททท.ยืนยันว่า การเปลี่ยนสีของน้ำทะเลจะแก้ไขได้ทันก่อนจะถึงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งชายหาดบางแสน จะเป็นสถานที่สำคัญของการจัดงานประเพณีสงกรานต์บางแสน และคาดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากผู้เข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์ในบางแสนจะเล่นน้ำจืดมากกว่าน้ำทะเล ที่สำคัญระยะเวลาที่เหลืออีก 2 สัปดาห์น่าจะหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อแก้ไขได้