มหาสารคาม - ราคาข้าวเปลือกพุ่ง ดันราคาข้าวสารปรับขึ้นราคาตาม พาณิชย์จังหวัดมหาสารคราม หวั่นเกิดการกักตุนข้าวเพื่อหวังกำไรเพิ่ม ประสานเจ้าหน้าที่ตรวจเข้มร้านค้าอย่างต่อเนื่อง เผยยังไม่มีร้านค้าใดกักตุนข้าว
นายวิริทธิ์พล สันติศราวุฒิ พาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สถานการณ์ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ราคาตันละกว่า 15,000 บาท และราคาข้าวเปลือกเหนียวราคาตันละกว่า 10,000 บาท ส่งผลต่อเนื่องให้ราคาจำหน่ายข้าวสารขยับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย โดยราคาข้าวสารหอมมะลิ อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 28-30 บาท และราคาข้าวสารเหนียวราคากิโลกรัมละ 22-24 บาท
ทั้งมีการประเมินว่าทั้งราคาข้าวเปลือกและข้าวสารจะยังคงมีการปรับตัวสูงขึ้นไปอีก เกรงว่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าข้าว จะเกิดการกักตุนข้าว เพื่อหวังให้ปรับขึ้นราคาไปอีก โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามสถานการณ์ราคาข้าวอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้มีการกักตุนข้าวโดยเด็ดขาด ที่ผ่านมายังไม่พบผู้ค้ารายใดกักตุนข้าวสารไว้ การซื้อขายยังคงเป็นไปตามปกติ ประชาชนยัง สามารถซื้อข้าวสารได้ตามจำนวนที่ต้องการ ส่วนหนึ่งมาจากการเพาะปลูกทำนาปีของจังหวัดมหาสารคามสามารถผลิตข้าวและเก็บข้าวไว้บริโภคได้อย่างเพียงพอ
ขณะเดียวกัน ร้านอาหารตามสั่งในรั้ว และรอบรั้วมหาวิทยาลัย แม้จะได้รับผลกระทบจากราคาข้าวสารที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็ยังไม่ปรับขึ้นราคา เนื่องจากมีนิสิตนักศึกษาเพียงส่วนน้อยที่ลงทะเบียนเรียนในภาคฤดูร้อนจึงต้องทนไปก่อน โดยพ่อค้าแม่ค้า ได้หาทางออกด้วยการปรับลดปริมาณลงบ้าง และไม่ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อน
นายวิริทธิ์พล สันติศราวุฒิ พาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สถานการณ์ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ราคาตันละกว่า 15,000 บาท และราคาข้าวเปลือกเหนียวราคาตันละกว่า 10,000 บาท ส่งผลต่อเนื่องให้ราคาจำหน่ายข้าวสารขยับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย โดยราคาข้าวสารหอมมะลิ อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 28-30 บาท และราคาข้าวสารเหนียวราคากิโลกรัมละ 22-24 บาท
ทั้งมีการประเมินว่าทั้งราคาข้าวเปลือกและข้าวสารจะยังคงมีการปรับตัวสูงขึ้นไปอีก เกรงว่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าข้าว จะเกิดการกักตุนข้าว เพื่อหวังให้ปรับขึ้นราคาไปอีก โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามสถานการณ์ราคาข้าวอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้มีการกักตุนข้าวโดยเด็ดขาด ที่ผ่านมายังไม่พบผู้ค้ารายใดกักตุนข้าวสารไว้ การซื้อขายยังคงเป็นไปตามปกติ ประชาชนยัง สามารถซื้อข้าวสารได้ตามจำนวนที่ต้องการ ส่วนหนึ่งมาจากการเพาะปลูกทำนาปีของจังหวัดมหาสารคามสามารถผลิตข้าวและเก็บข้าวไว้บริโภคได้อย่างเพียงพอ
ขณะเดียวกัน ร้านอาหารตามสั่งในรั้ว และรอบรั้วมหาวิทยาลัย แม้จะได้รับผลกระทบจากราคาข้าวสารที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็ยังไม่ปรับขึ้นราคา เนื่องจากมีนิสิตนักศึกษาเพียงส่วนน้อยที่ลงทะเบียนเรียนในภาคฤดูร้อนจึงต้องทนไปก่อน โดยพ่อค้าแม่ค้า ได้หาทางออกด้วยการปรับลดปริมาณลงบ้าง และไม่ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อน