เชียงราย - หน่วยป่าไม้เชียงราย สนธิกำลังลุยปราบนายทุนสั่งรุกป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าลอยไร่-ป่าสักลอ-ป่าน้ำพุง” พบมีการโค่นไม้ใหญ่ จุดไฟเผาป่า ยึดเนื้อที่ป่าชุ่มน้ำระดับ 1 A. กว่า 80 ไร่ สร้างพื้นที่การเกษตร แถมเป็นแหล่งสัตว์ป่าหายาก “นกยูงหางยาว 1 วา ลิงชะนีค่าง” ด้วย
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (1 เม.ย.) นายวิชัย แหลมวิไล อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้นายทนงศักดิ์ ธรรมโม ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 จ.เชียงราย สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ชร.ที่ 4 (เชียงเคี่ยน) เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ, ชุดสายตรวจสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เทิง, เจ้าหน้าที่ อบต.แม่ลอย, ผู้นำชุมชน ต.แม่ลอย นำกำลังผสม พร้อมอาวุธปืนยาวครบมือกว่า 30 นาย กระจายกำลังเข้าตรวจสอบที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าลอยไร่ ป่าสักลอ และป่าน้ำพุง บ้านจำไคร้ ม.9 ต.แม่ลอย อ.เทิง จ.เชียงราย หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบบุกรุกป่าเนื้อจำนวนมาก
จากการเข้าตรวจสอบพบที่เกิดเหตุ เป็นหุบเขาสูง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ชุ่มน้ำระดับ 1 A. มีร่องรอยการโค่นต้นไม้ใหญ่ ที่มีขนาดสูงกว่า 10 เมตร จำนวนกว่า 200 ต้น จนเหลือแต่ตอ และมีการใช้ไฟจุดเผาพื้นที่ป่าเป็นบริเวณกว้างจนราบเตียน บริเวณโดยรอบพื้นที่บุกรุกยังมีการปรับไถหน้าดิน เพื่อเตรียมลงแปลงเกษตร ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงใช้ จีพีเอส.ตรวจวัดพิกัดป่า พบว่ามีเนื้อที่บุกรุกกว่า 80 ไร่ ครอบคลุม 3 หุบเขา
แต่ขณะเข้าตรวจสอบไม่พบกลุ่มผู้กระทำความผิด ซึ่งคาดว่าไหวตัวหลบหนีไปได้ก่อน จึงได้กันพื้นที่ นำป้ายเข้าปักแสดงเขตพื้นที่ตรวจยึดเอาไว้โดยรอบ โดยมีรายงานว่า รอบพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกมีเสียงร้องของนกยูง-ลิง ค่าง ดังไปทั่วหุบเขา
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า พื้นที่ป่ากว่า 80 ไร่ในป่าสงวนผืนนี้ มีกลุ่มราษฎรข้ามาบุกรุกเผาป่า สร้างพื้นที่ทำกิน ครอบรองโดยผิดกฏหมายมานานกว่า 1 ปี มีการจุดไฟเผาทำลายความชุ่มชื้นของป่า และโค่นต้นไม้ใหญ่เพื่อปรับไถหน้าดินอย่างต่อเนื่อง ต่อมากลุ่มผู้นำชุมชน ได้เข้าตรวจสอบพบการบุกรุกจึงแจ้งฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าตรวจสอบ เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของกลุ่มผู้บุกรุก ที่มีด้วยกันหลายคน
ด้าน นายทนงศักดิ์ กล่าวว่า พื้นที่ป่าสงวนจุดนี้มีหุบเขาสูงซ้อนกันหลายหุบ ลักษณะเป็นแอ่ง มีความชุ่มชื้นของพื้นที่ถึง 3 ระดับ โดยพบเป็นพื้นที่ระดับ 1 A.มาก ซึ่งอยู่ระหว่างรอประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เนื่องจากมีพันธุ์สัตว์ป่าหายาก ทั้งนกยูงขนาดหางยาว 1 วา หรือลิงชะนีหายาก เข้ามาขยายพันธุ์สร้างรกรากในป่าแห่งนี้อีกมาก ก่อนจะเข้าตรวจยึดพื้นที่ จึงไม่ทราบว่ามีการล่าสัตว์ป่าหายากไปมากน้อยเท่าไร จึงจะสอบสวนขยายผลให้ได้ว่ากลุ่มผู้บุกรุกมีจำนวนเท่าใด มีกลุ่มนายทุนหรือกลุ่มผู้มีอิทธิพลจากนอกพื้นที่ อยู่เบื้องหลังด้วยหรือไม่ จะได้รายงานอธิบดีกรมป่าไม้ ทราบ เพื่อรับคำสั่งเข้าดำเนินการปราบปรามอย่างเด็ดขาดต่อไป