ตร.ปากช่องรวบ “ไอ้โอแหว่ง” โจรสาดพริกป่นชิงทรัพย์เหยื่อ

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจปากช่องโคราช รวบ “ไอ้โอแหว่ง” โจรสาดพริกป่นใส่หน้าเหยื่อก่อนชิงทรัพย์ได้แล้ว หลังหลบหนีไปกบดานอยู่นานกว่า 10 วัน รับสารภาพสิ้นต้องการนำเงินไปซื้อยาบ้าเสพ เผยก่อเหตุมาแล้วหลายราย พร้อมเป็นหนึ่งในแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ตร.เตรียมขยายผลจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งต่อไป

ช่วงบ่ายวันนี้ (29 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากช่อง อ. ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้นำตัว นายธีระเดช พิศสะอาด หรือฉายา “ไอ้โอแหว่ง” อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ตลาดกังวาฬ 2 เขตเทศบาล ถ.มิตรภาพ ต.ปากช่อง ผู้ต้องหาก่อเหตุสาดพริกป่นใส่หน้าและกระชากสร้อยคอทองคำแม่ค้าใน อ.ปากช่อง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกบดานนานอยู่ในบ้านไม่เลขที่ ใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กว่า 10 วัน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา นายธีระเดช หรือโอแหว่ง ได้ก่อเหตุใช้พริกป่นสาดใส่หน้า และกระชากสร้อยคอทองคำ ของ นางนุชจรี ก้อนจันทึก เจ้าของร้านขายของชำใน อ.ปากช่อง โดยนายธีระเดช ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดไว้หน้าร้าน ทำทีมาขอซื้อบุหรี่เมื่อนางนุชจรี เจ้าของร้านเผลอ จึงใช้พริกป่นที่เตรียมมาสาดใส่หน้านางนุชจรี อย่างจัง จนปวดแสบปวดร้อนก่อนลงมือกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท แต่นางนุชจรีไม่ยอมพยายามยื้อแย่งสร้อยคอจากคนร้ายพร้อมร้องขอความช่วยเหลือ นายแก้ว ก้อนจันทึก สามีที่อยู่หลังบ้านได้วิ่งออกมาช่วยและเข้าทำร้าย นายธีระเดช เห็นว่าสู้ไม่ได้ นายธีระเดช จึงทิ้งรถจักรยานยนต์แล้ววิ่งหลบหนีไปได้โดยไม่ได้ทรัพย์สินไปแต่อย่างใด

จากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ทราบว่านายธีระเดช ผู้ต้องหา หลบหนีไปกบดานอยู่บ้านหลังหนึ่ง ไม่มีเลขที่ ใน ต.ปากช่อง จึงขอศาลจังหวัดสีคิ้วออกหมายจับ และ ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เข้าตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ บริเวณบ้านสะพานดำ ต.ปากช่อง จนพบตัว นายธีระเดช กบดานอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จึงแสดงตัวเข้าจับกุม

นายธีระเดช หรือโอแหว่ง ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือใช้พริกป่นสาดใส่หน้านางนุชจรีจริง และยังก่อเหตุเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง ส่วนรถจักรยานยนต์คันที่ทิ้งไว้เป็นรถที่ขโมยมา ซึ่งที่ผ่านมาได้ตระเวนขโมยรถจักรยานยนต์ในเขต อ.ปากช่องมาแล้ว 7 คัน และนำไปขายให้คนรู้จักกันคันละ 3,000-4,000 บาท เพื่อนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ นอกจากนี้ยังใช้พริกป่นสาดหน้าเหยื่อแล้วชิงทรัพย์มาแล้วหลายราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนต่อไป รวมถึงขยายผลไปยังเพื่อนร่วมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ด้วย