มุกดาหาร - ผู้ว่าฯ มุกดาหารลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาล เจ้าหน้าที่ชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจศึกษาลำห้วยสาขาที่น้ำไหลลงสู่แม่น้ำโขงในการจัดทำโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี
นายปราณีต บุญมี ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โครงการชลประทาน เทศบาลเมืองมุกดาหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจบริเวณปากห้วยมุกและปากห้วยแข้และห้วยคันแทใหญ่ สามลำห้วยเป็นช่องทางที่น้ำไหลออกสู่แม่น้ำโขง ทางจังหวัดจึงได้ลงดูพื้นที่เพื่อจัดทำโครงการประตูผนังกั้นน้ำก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขงโดยเปล่าประโยชน์
เนื่องจากลำห้วยดังกล่าวเป็นลำห้วยสายหลักที่ประชาชนและเกษตรกรได้ผันน้ำขึ้นมาใช้ในช่วงน้ำหลาก พอใกล้หมดช่วงน้ำหลาก แต่ก็ไม่ได้มีการกักเก็บน้ำไว้ใช้ เมื่อมาถึงฤดูแล้งลำห้วยสายหลักเหล่านี้กลับแห้งขอด ไม่สามารถผันน้ำขึ้นมาใช้ได้
ดังนั้น จังหวัดมุกดาหารจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการศึกษาและออกแบบก่อสร้างประตูผนังกั้นน้ำที่บริเวณปากห้วยมุก และบริเวณปากห้วยแข้ เพื่อกังเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งเพื่อที่จะนำข้อมูลที่ได้เสนอคณะรัฐมนตรีในการอนุมัติโครงการและสนับสนุนงบประมาณ
เนื่องจากโครงการดังกล่าวจะต้องใช้งบประมาณสูงถึงกว่า 380 ล้านบาท เพื่อจะได้กักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ตลอดทั้งปีและเป็นการแก้ไข้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน และยังเป็นแหล่งพันธุ์สัตว์น้ำสำหรับเป็นอาหาร และเพิ่มอาชีพประมงให้ชุมชนและประชาชนที่อาศัยลำห้วยให้มีรายได้มากขึ้น และบริเวณริมลำห้วยสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนได้มากขึ้น
นายปราณีต บุญมี ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โครงการชลประทาน เทศบาลเมืองมุกดาหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจบริเวณปากห้วยมุกและปากห้วยแข้และห้วยคันแทใหญ่ สามลำห้วยเป็นช่องทางที่น้ำไหลออกสู่แม่น้ำโขง ทางจังหวัดจึงได้ลงดูพื้นที่เพื่อจัดทำโครงการประตูผนังกั้นน้ำก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขงโดยเปล่าประโยชน์
เนื่องจากลำห้วยดังกล่าวเป็นลำห้วยสายหลักที่ประชาชนและเกษตรกรได้ผันน้ำขึ้นมาใช้ในช่วงน้ำหลาก พอใกล้หมดช่วงน้ำหลาก แต่ก็ไม่ได้มีการกักเก็บน้ำไว้ใช้ เมื่อมาถึงฤดูแล้งลำห้วยสายหลักเหล่านี้กลับแห้งขอด ไม่สามารถผันน้ำขึ้นมาใช้ได้
ดังนั้น จังหวัดมุกดาหารจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการศึกษาและออกแบบก่อสร้างประตูผนังกั้นน้ำที่บริเวณปากห้วยมุก และบริเวณปากห้วยแข้ เพื่อกังเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งเพื่อที่จะนำข้อมูลที่ได้เสนอคณะรัฐมนตรีในการอนุมัติโครงการและสนับสนุนงบประมาณ
เนื่องจากโครงการดังกล่าวจะต้องใช้งบประมาณสูงถึงกว่า 380 ล้านบาท เพื่อจะได้กักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ตลอดทั้งปีและเป็นการแก้ไข้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน และยังเป็นแหล่งพันธุ์สัตว์น้ำสำหรับเป็นอาหาร และเพิ่มอาชีพประมงให้ชุมชนและประชาชนที่อาศัยลำห้วยให้มีรายได้มากขึ้น และบริเวณริมลำห้วยสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนได้มากขึ้น
