อดีตนายก อบจ.เมืองจันท์เปิดตัวสู้ศึกเลือกตั้ง

จันทบุรี- อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี นำทีมงานฝ่ายบริหาร และว่าที่ผู้สมัครสมาชิก อบจ.เมืองจันท์ แถลงข่าวลงสู้ศึกเลือกตั้งสนามเล็ก

วันนี้ (18 มี.ค.) นายธนภณ กิจกาญจน์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี นำทีมงานฝ่ายบริหาร และว่าที่ผู้สมัครสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวสู้ศึกเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ โดย นายธนภณ กิจกาญจน์ ยังคงจะสมัครลงชิงชัยในตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรีเช่นเดิม ส่วนทีมงานบริหารก็ยังเป็นทีมงานชุดเก่า ที่อยู่ในตำแหน่งเดิมเช่นกัน

ทั้งนี้ นายอิสิวุฒิ ตั้งเกียรติ และ นางวรรณฤดี ศรีคำแหง ถูกวางไว้ให้ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกฯ นายวิรัช อินทสุวรรณ เป็นที่ปรึกษานายกฯ นายเกียรติศักดิ์ พูนเพิ่ม นายฉัตรพัฒน์ ธนูทอง และนายธีรพันธ์ เจริญสิทธิ์ ถูกวางไว้ในตำแหน่งเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี

สำหรับว่าที่ผู้สมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ทั้ง 10 อำเภอ ใน 30 เขตเลือกตั้ง ขณะนี้ได้ว่าที่ผู้สมัครเกือบครบทุกเขตแล้ว ขาดเพียงเขต 7 ของอำเภอเมือง และเขต 2 ของอำเภอขลุง ที่ยังไม่มีผู้แสดงความประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของทีมอดีตนายก

ขณะที่เขต 1 ของอำเภอเมือง เขต 2 ของอำเภอนายายอาม และเขต 1 ของอำเภอเขาคิชฌกูฏ มีว่าที่ผู้สมัครในทีมเดียวกันนี้เขตละ 2 คน โดยเขต 1 อำเภอเมือง มี นายรุ่งเพชร ผาสุก และ นายทวี ลิ้มสวัสดิ์ เขต 2 อำเภอนายายอาม มี นายอังชัน จึงสกุลวัฒนา และ นายพิสิษฐ์ เจนจัดการ ส่วนเขตที่ 1 อำเภอเขาคิชฌกูฏ มีนายประสาน ธรรมศร และ นายสุชิน สีใย ที่จะลงสมัครในเขตเดียวกัน เนื่องจากผู้สมัครมีความประสงค์ และยอมรับที่จะลงแข่งขันกันเองโดยให้ประชาชนที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเป็นผู้ตัดสิน

นายธนภณ กิจกาญจน์ เปิดเผยว่า การหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้จะยังคงชูนโยบายหลักที่แบ่งไว้ 4 ด้านเช่นเดิม คือ ด้านการศึกษา เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ส่วนกรณีที่มีคู่แข่งเป็นอดีต ส.ส.ซึ่งมีพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้ง ส.ส.จังหวัดจันทบุรี ของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 คน ให้การสนับสนุนอย่างเต็มตัว และได้เปิดตัวทีมงานผู้บริหารไปแล้ว ก็มีความหนักใจอยู่บ้าง แต่ยังเชื่อว่าผลงานที่ผ่านมา จะมีส่วนสำคัญในการช่วยรณรงค์เรียกคะแนนเสียงให้กับทีมของตนเอง

นายธนภณ ยังยืนยันด้วยว่า ทีมของตนไม่มีพรรคการเมืองใดมาหนุนหลังแน่นอน เพราะต้องการทำงานด้วยความคิดที่อิสระ ปลอดจากการควบคุมของพรรคการเมือง อีกทั้งต้องการให้การพัฒนาและบริหารท้องถิ่นเกิดขึ้น จากความคิดของคนในท้องถิ่นอย่างแท้จริง ภายใต้สโลแกน “เลือกคนท้องถิ่น โดยคนท้องถิ่น เพื่อคนท้องถิ่น”