กาญจนบุรี – ประธาน กกต.กาญจนบุรี ชี้นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ่อพลอย ยังมีสิทธิ์ลงสมัครเลือกตั้งในสมัยหน้า เพราะคดียังไม่สิ้นสุด ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฎหมายเลือกตั้ง จับตาการเลือกตั้งนายก อบจ.กาญจน์ และนายกเทศบาลเมือง คาดดุเดือดแน่
ความคืบหน้าคดีจับนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ่อพลอย จ.กาญจนบุรี วันนี้ (6 มี.ค.) เวลา 13.00 น.นายเทอดศักดิ์ กรรณสูต ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลบ่อพลอย ว่า จากการที่ กกต.กาญจนบุรี ได้ตรวจสอบข้อมูลท้องถิ่น พบว่า นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ่อพลอย และสภาเทศบาลตำบลบ่อพลอย จะหมดวาระในวันที่ 5 มิ.ย.2551 ที่จะถึงนี้ ทาง กกต.กาญจนบุรีได้เตรียมความพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นดังกล่าวแล้วเช่นกัน
จากการหาข่าวในเบื้องต้นเริ่มมีการเปิดตัวผู้ที่จะลงสมัครเลือกตั้งแล้วมากกว่า 1 คน ซึ่งประเด็นการจัดการเลือกตั้งกับเรื่องการสอบสวนดำเนินคดีเป็นคนละประเด็นกัน ในส่วนคดีที่เกิดขึ้นยังไม่กระทบกับคุณสมบัติของผู้สมัคร หากพิจารณาเบื้องอย่างกรณีของนายกสุรศักดิ์นั้นก็ยังถือว่าคุณสมบัติยังครบถ้วนเพราะถือว่าเป็นผู้ถูกกล่าวหาแม้ถูกดำเนินคดีแต่คดียังไม่ถึงที่สุด ดังนั้นน่าจะสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้
มีรายงานข่าวว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ยังมีอีก 2 สนามที่ประชาชนให้ความสนใจในการจับตาดูอย่างเกาะติดสนามแรก คือ การเลือกตั้ง นายก อบจ.กาญจนบุรี ที่มีการประกาศให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 20 เม.ย.2550 และเปิดรับสมัครในวันที่ 17-21 มี.ค.2551 ที่จะถึงนี้ที่มีคนดังเปิดตัวลงสมัครเลือกตั้งแล้ว 2 คน คือ นางอุไรวรรณ พงษ์ศักดิ์ อดีตนายก อบจ.กาญจนบุรี ที่เพิ่งหมดวาระน้องสาวของ นายสันทัด จีนาภักดิ์ ส.ส.กาญจนบุรี กับ นายรังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ อดีตนายกเทศบาลตำบลวังกะ ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของ นายสุนทร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์
ส่วนอีกสนามหนึ่งที่ถูกจับตาดูว่าจะเป็นการแข่งขันเลือกตั้งที่ดุเดือดอีกเช่นกัน คือ การเลือกตั้งนายกเทศบาลเมืองกาญจนบุรี และสภาเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ที่เพิ่งหมดวาระลงเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมา ที่มีการเปิดตัวผู้ลงสมัครเลือกตั้งแข่งขันกันแล้ว 2 คน คือ นายประสิทธิ์ โอภาสทิพากร อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาญจนบุรีที่เพิ่งหมดวาระไป กับ นายสินชัย สาระศาริน อดีตนายก อบจ.กาญจนบุรี ที่เปิดตัวลูกทีม ส.ท.ลงสมัครครบทั้ง3เขต รวม 18 คน อย่างครบทีมทั้งคู่
โดยมีการหาเสียงแบบเคาะประตูบ้านถือเป็นการแข่งขันที่น่าจะเข้มข้นมากทั้ง 2 สนามเลือกตั้ง และมีการจัดระบบรักษาความสงบอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายในการเลือกตั้งทั้ง 2 ครั้งนี้อีกด้วย
ความคืบหน้าคดีจับนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ่อพลอย จ.กาญจนบุรี วันนี้ (6 มี.ค.) เวลา 13.00 น.นายเทอดศักดิ์ กรรณสูต ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลบ่อพลอย ว่า จากการที่ กกต.กาญจนบุรี ได้ตรวจสอบข้อมูลท้องถิ่น พบว่า นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ่อพลอย และสภาเทศบาลตำบลบ่อพลอย จะหมดวาระในวันที่ 5 มิ.ย.2551 ที่จะถึงนี้ ทาง กกต.กาญจนบุรีได้เตรียมความพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นดังกล่าวแล้วเช่นกัน
จากการหาข่าวในเบื้องต้นเริ่มมีการเปิดตัวผู้ที่จะลงสมัครเลือกตั้งแล้วมากกว่า 1 คน ซึ่งประเด็นการจัดการเลือกตั้งกับเรื่องการสอบสวนดำเนินคดีเป็นคนละประเด็นกัน ในส่วนคดีที่เกิดขึ้นยังไม่กระทบกับคุณสมบัติของผู้สมัคร หากพิจารณาเบื้องอย่างกรณีของนายกสุรศักดิ์นั้นก็ยังถือว่าคุณสมบัติยังครบถ้วนเพราะถือว่าเป็นผู้ถูกกล่าวหาแม้ถูกดำเนินคดีแต่คดียังไม่ถึงที่สุด ดังนั้นน่าจะสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้
มีรายงานข่าวว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ยังมีอีก 2 สนามที่ประชาชนให้ความสนใจในการจับตาดูอย่างเกาะติดสนามแรก คือ การเลือกตั้ง นายก อบจ.กาญจนบุรี ที่มีการประกาศให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 20 เม.ย.2550 และเปิดรับสมัครในวันที่ 17-21 มี.ค.2551 ที่จะถึงนี้ที่มีคนดังเปิดตัวลงสมัครเลือกตั้งแล้ว 2 คน คือ นางอุไรวรรณ พงษ์ศักดิ์ อดีตนายก อบจ.กาญจนบุรี ที่เพิ่งหมดวาระน้องสาวของ นายสันทัด จีนาภักดิ์ ส.ส.กาญจนบุรี กับ นายรังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ อดีตนายกเทศบาลตำบลวังกะ ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของ นายสุนทร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์
ส่วนอีกสนามหนึ่งที่ถูกจับตาดูว่าจะเป็นการแข่งขันเลือกตั้งที่ดุเดือดอีกเช่นกัน คือ การเลือกตั้งนายกเทศบาลเมืองกาญจนบุรี และสภาเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ที่เพิ่งหมดวาระลงเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมา ที่มีการเปิดตัวผู้ลงสมัครเลือกตั้งแข่งขันกันแล้ว 2 คน คือ นายประสิทธิ์ โอภาสทิพากร อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาญจนบุรีที่เพิ่งหมดวาระไป กับ นายสินชัย สาระศาริน อดีตนายก อบจ.กาญจนบุรี ที่เปิดตัวลูกทีม ส.ท.ลงสมัครครบทั้ง3เขต รวม 18 คน อย่างครบทีมทั้งคู่
โดยมีการหาเสียงแบบเคาะประตูบ้านถือเป็นการแข่งขันที่น่าจะเข้มข้นมากทั้ง 2 สนามเลือกตั้ง และมีการจัดระบบรักษาความสงบอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายในการเลือกตั้งทั้ง 2 ครั้งนี้อีกด้วย
