ศูนย์ข่าวศรีราชา- ซันไชน์ กรุ๊ป กลุ่มผู้ดำเนินธุรกิจโฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ต ในเมืองพัทยามานานกว่า 30 ปี ทุ่มอีกเกือบพันล้าน ผุดโรงแรมแห่งใหม่ระดับ 4 ดาวภายใต้แบรนด์ “ราวินทรา” ริมถนนสุขุมวิท หวังขยายฐานลูกค้ากลุ่มยุโรปที่ต้องการพักผ่อนในรูป แบบรีสอร์ตหรูที่มีความเป็นส่วนตัว เผยปัจจุบันนักท่องเที่ยวระดับบนเริ่มเบนเข็มจากแหล่งท่องเที่ยวหลากสีสันอย่างเมืองพัทยา สู่เมืองท่องเที่ยวใกล้เคียงที่มีความสงบและเป็นส่วนตัว ขณะที่ยอดการเข้าพักของโรงแรมอีก 5 แห่งในกลุ่มช่วงปี 2550 พบมีไม่ต่ำกว่า 70-80% ของจำนวนห้องพักทั้งหมด
นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี กรรมการบริหารกลุ่มโรงแรมในเครือซันไชน์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ทที่ประกอบด้วยโรงแรมเดอะ กรีน พาร์ค รีสอร์ท, ซันไชน์ การ์เดน รีสอร์ท, โลมา รีสอร์ทและสปา, ซันไชน์ โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์และซันไชน์ วิสต้า เซอร์วิส อพาร์ทตเมนต์ ที่เปิดให้บริการโรงแรมระดับ 2-3 ดาวในเมืองพัทยามานานกว่า 30 ปีเผยถึงการทุ่มงบประมาณอีกเกือบ 1 พันล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อเปิดให้บริการโรงแรมแห่งใหม่ในเฟสแรกระดับ 4 ดาว ขนาด 277 ห้องบนเนื้อที่ 35 ไร่ติดถนนสุขุมวิท เขตนาจอมเทียน อำ เภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีว่า เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ใหม่และยกระดับโรงแรมในเครือ ให้ก้าวสู่การเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวนำร่อง ทั้งงานบริการและความหรูหรา ที่สำคัญยังเป็นการสร้างมูลค่าการลงทุนให้คุ้มกับราคาที่ดินซึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนซันไชน์กรุ๊ป ซื้อเก็บไว้ในราคา 5 ล้านบาทต่อไร่ แต่ปัจจุบันได้ขยับเป็น 15 ล้านบาทต่อไร่
สำหรับโรงแรมแห่งใหม่ใช้ชื่อ ราวินทรา บีช รีสอร์ท และ สปา ซึ่งเป็นภาษาสันสกฤต ที่มีความหมายว่าพระอาทิตย์ เช่นเดียวกับคำว่าซันไชน์ โดยใช้เวลาในการก่อสร้างนาน 14 เดือนและเปิดให้บริการในลักษณะซอฟต์ โอเพนนิ่งไปเมื่อไม่นานและ คาดว่าจะเปิดอย่างเป็นทางการได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งกลุ่มลูกค้านอกจากจะเป็นกลุ่มสัมมนาที่ถือเป็นตลาดสำคัญในช่วงโลว์ซีซันแล้ว การที่ซันไชน์ กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจโรงแรมมานานทำให้มีเอเยนซี่เดิมที่พร้อมเซ็นสัญญาเพื่อส่งนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรป สแกนดิเนเวีย รวมถึงอังกฤษ ไต้หวัน เกาหลีและตลาดเยอรมัน ที่มีความต้องการเข้าพักยังรีสอร์ตหรูที่มีความเป็นส่วนตัวและไม่อยู่ใจกลางเมืองพัทยา
ที่สำคัญ โรงแรมแห่งนี้นอกจากจะมีจุดขายสำคัญที่ความหรูหราแล้ว ชายหาดส่วนตัวที่มีความกว้าง 100 เมตรและยังเป็นชายหาดที่บริสุทธิ์ยังสามารถตอบสนองความต้องการเข้าพักของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี
“ต้นทุนเฉลี่ยทางการลงทุนในเฟสแรก นอกจากจะเป็นที่ดินที่เราซื้อเก็บไว้ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อนในระดับราคา 5 ล้านบาทต่อไร่แล้ว ในส่วนของสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดใช้งบประมาณ 600-700 ล้านบาท ขณะที่ตัวโรงแรมเน้นการตกแต่งแบบไทย คอนเทมโพรารี่ ที่เน้นการเข้าพักแบบเป็นส่วนตัว และขณะนี้ยังได้ยื่นแบบในส่วนการจัดสร้างมินิพลาซ่าริมถนนสุขุมวิท เพื่อให้เป็นศูนย์รวมร้านจำหน่ายอาหาร สินค้า ธนาคาร ร้านหนังสือฯลฯ เพื่อรับกลุ่มผู้เข้าพักที่ไม่ต้องการเข้าเมือง และรองรับกลุ่มผู้เข้าพักของโรงแรมใกล้เคียงที่ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะมีห้องพักเกิดใหม่จากการก่อสร้างคอนโดมิเนียมและโรงแรมอีกไม่น้อยกว่า 3 พันห้อง”
ส่วนการก่อสร้างในเฟสที่ 2 ตามแผนงานที่วางไว้จะเป็นการก่อสร้างอาคารสูง เพื่อรองรับกลุ่มผู้เข้าพักชาวเอเชียและกลุ่มคนไทย ตลาดสัมมนา เช่นเดียวกับเฟสแรก โดยกลุ่มนี้จะไม่เน้นการเข้าพักแบบรีสอร์ต ซึ่งในเฟสแรกได้จัดสร้างห้องสัมมนาขนาดใหญ่ที่สามารถจุผู้คนได้มากถึง 500 คน
นายธเนศ ยังกล่าวถึงการทำตลาดเพื่อสร้างยอดการเข้าพักในโรงแรมแห่งใหม่ หลังจากยอดเข้าพักในโรงแรมต่างๆ ของเครือซันไชน์ในปี 2550 ที่ผ่านมามีไม่น้อยกว่า 70-80%ของจำนวนห้องพักทั้งหมดว่า นอกจากการขายห้องพักผ่านเอเยนซีหลักในต่างประเทศซึ่งทำธุรกิจร่วมกันมานานแล้ว การขายห้องพักผ่านระบบอินเทอร์เน็ตก็พบว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันยังเดินทางร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของเมืองพัทยา เปิดบูทส่งเสริมการขายทั้งในตลาดยุโรปและเอเชียอย่างต่อเนื่อง
“สำหรับพัทยาแม้จะมีโรงแรมเกิดใหม่ขึ้นมาก แต่กลุ่มลูกค้าที่เดินทางเข้าพักก็ยังกว้างอยู่ ซึ่งการเกิดใหม่ของโรงแรมระดับต่างๆ ในอนาคตจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าหากใครปรับตัวรับกระแสการเปลี่ยนแปลงของตลาดไม่ได้ ก็จะถูกเปลี่ยนมือและหันไปทำธุรกิจด้านอื่น ซึ่งในเรื่องของการปรับราคาห้องพักกลุ่มโรงแรมในเครือซันไชน์กรุ๊ปเราทำอยู่ทุกปี ซึ่งในครั้งแรกลูกค้าประจำไม่เข้าใจก็จะหายไปและแม้เราจะปรับราคาห้อง พัก แต่ในส่วนของโรงแรมต่างๆเรามีการรีโนเวต และซ่อมแซมอยู่ต่อ และในช่วงหลังแม้ จะพบว่าจำนวนลูกค้าที่เข้าพักกับเราลดลง แต่ยอดรายได้ของเรากลับเพิ่มขึ้น”
ขณะที่จุดคุ้มทุนของการลงทุนในครั้งนี้ คาดว่า น่าจะอยู่ที่ประมาณ 7-8 ปี อย่างไรก็ดี กระแสแข่งขันในธุรกิจโรงแรมของเมืองพัทยาโดยเฉพาะในระดับบน นับจากนี้จะอยู่ที่การสร้างจุดขายที่มีความแตกต่างและทำเลที่มีความเป็นส่วนตัว โดยโรงแรมราวินทรา บีช รีสอร์ตและสปา ให้ความสำคัญกับการตกแต่งพื้นที่สวน สระว่ายน้ำส่วนกลางที่มีมากถึง 3 ใบ รวมทั้งสระว่ายน้ำส่วนตัว ในส่วนพูลวิลลาที่จะสร้างความพอใจให้แก่ ผู้เข้าพักมากกว่าตัวอาคาร สำหรับโรงแรมแห่งนี้ให้บริการห้องพัก 4 แบบ คือ ซูพีเรีย, เดอลักซ์, แฟมิลี สวีท และ พูล วิลล่า ที่มีราคาเข้าพักเริ่มต้นที 3,500 บาทต่อคืนเรื่อยไปจนถึงกว่า 2 หมื่นบาทต่อคืน