กาญจนบุรี – เจ้าหน้าที่ตำรวจจับ “โอ๋ ลุ่มสุ่ม” แก๊งค้ายาบ้ารายใหญ่ พร้อมของกลางเป็นยาบ้า 20,000 เม็ด ขณะขนจากชายแดนส่งขายในตัวเมืองกาญจนบุรี ผู้ต้องหาสารภาพนำมาจากฝั่งพม่าเม็ดละ 80 บาท ขายในเขตกาญจนบุรี 250-300 บาทต่อเม็ด แต่ถ้าส่งถึงนครปฐมจะตกเม็ดละ 400 บาท
วันนี้ (3 มี.ค.) เวลา 16.00 น.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อม พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี และ พ.ต.อ.กิติศักดิ์ กะสีวัฒน์ ผกก.สภ.ทองผาภูมิ ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่ห้องประชุมแควน้อย ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี
นายอำนาจ กล่าวว่า วันนี้เวลา 12.00 น.ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ ได้ร่วมกับชุด ฉก.ศตส.กาญจนบุรี จับกุม นายเทวบุญฤทธิ์ หรือ “โอ๋ ลุ่มสุ่ม” สูงใจวงษ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 9 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางยาบ้า 20,000 เม็ด ขณะลักลอบขนยาบ้ามาจากชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อส.ได้ทำการซุ่มโป่งวางกำลังเข้าตรวจค้นรถยนต์กระบะแค็บ ยี่ห้อ นิสสัน รุ่นบิ๊กเอ็ม สีขาว หมายเลขทะเบียน บบ 1835 กาญจนบุรี ที่ได้รับรายงานว่า เป็นเป้าหมาย เมื่อทำการสกัดจับ พบ นายเทวบุญฤทธิ์ ขับขี่รถคันดังกล่าวมาตรวจจุดสามแยกท่าขนุน บนถนนสายทองผาภูมิ-สังขละบุรี หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
โดยผลการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 20,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำ ที่วางไว้อยู่ใต้เบาะหน้าด้านซ้าย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมตัวนายเทวบุญฤทธิ์พร้อมรวบรวมของกลางยาบ้าและรถยนต์ที่ใช้ขนนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.ทองผาภูมิ และจะนำตัวมาขยายผลการจับกุมต่อที่ตัวเมืองกาญจนบุรีต่อไป
นายเทวบุญฤทธิ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนได้ซื้อยาบ้ามาจากเมืองพญาตองซู ประเทศพม่าในราคาเม็ดละ 80 บาท และลักลอบหลบซ่อนยาบ้าจ้างชาวพม่าให้ลักลอบขนเข้ามาในประเทศไทย โดยตนจะนำยาบ้าไปขายให้กับพ่อค้ายาบ้าในพื้นที่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เม็ดละ 250-300 บาท และหากสามารถนำไปขายให้พ่อค้ายาบ้าในเขตพื้นที่ จ.นครปฐม ยาบ้าจะมีราคาเม็ดละ 400 บาท
มีรายงานข่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการให้ ศตส.กาญจนบุรี และ ตำรวจ บก.ตร.กาญจนบุรี พร้อมกับทหารกองกำลังสุรสีห์ กับ กก.ตชด.ที่ 13 ได้ทำการประสานงานด้านการข่าว โดยสนธิกำลังเพื่อทำการกวาดล้างขบวนการค้าของผิดกฎหมายชายแดนไทย-พม่า โดยเน้นยาเสพติดและขบวนการค้าแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเป็นนโยบายเร่งด่วน และให้ใช้มาตรการเด็ดขาดในการปราบปรามอย่างเข้มงวดอีกด้วย