ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจพลูตาหลวง สัตหีบ ตามดมกลิ่นแก๊งยกรถจักรยานยนต์ขึ้นรถกระบะ เจอแก๊ง 17 ปี เช่าห้องเป็นศูนย์รวมรถเก่าชำแหละขายอะไหล่ ใหม่ขายกลุ่มวัยรุ่น นำเงินมาซื้อยาบ้าเสพ พบแท่นยิงปืน ค.60 จำนวน 1 แท่น
เวลา 14.30 น.วันนี้ (3 มี.ค.) พ.ต.ท.สมชาย สุนทวนิค สารวัตรใหญ่ สภ.พลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้สืบทราบว่าห้องเช่าเลขที่ 5/53 หมู่ที่ 7 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาบ้ากันเป็นจำนวนมากและมีผู้พบเห็นว่าเวลากลางคืนจะมีการนำรถจักรยานยนต์แปลกๆ เปลี่ยนรุ่น ยี่ห้อ และสี หมุนเวียนอยู่ตลอดทุกคืนและบางครั้งเห็นรถกระบะบรรทุกรถจักรยานยนต์ท้ายกระบะมาลงที่หน้าห้องเช่า
ต่อมา พ.ต.ท.สมชาย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปซุ่มโปร่งดูพฤติกรรมพบว่าได้มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากห้องเช่า จึงได้ขอตรวจสอบปรากฏว่า ไม่มีเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบและยอมรับว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถที่โจรกรรมมาจากพื้นที่จังหวัดระยอง และได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบภายในห้องพักดังกล่าว
พบว่า ภายในห้องมีวัยรุ่นอีก 6 คนมั่วสุมกันอยู่และมีรถจักรยานยนต์ อีก 6 คันรวมเป็น 7 คัน พร้อมอะไหล่รถที่ถูกชำแหละแล้วอีกจำนวนมาก จึงได้ตรวจยึดพร้อมควบคุมตัวนายเต่า (นามสมมติ) อายุ 17 ปี, นายหนุ่ม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี, นายต๊ะ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี, นายเสือ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี, นายแอม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี, นายปิ่น (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และ นายท๊อป (นามสมมติ) อายุ 17 ปี มาส่งให้ พ.ต.ท.บำรุง รักษ์บำรุงสกุล พนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง
ต่อมา นายอรรคเดช จันทร์ศรี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/1 ห้องที่ 35 หมู่ที่ 2 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ ได้ทราบข่าวว่าตำรวจได้จับกุมแก๊งรถจักรยานยนต์และยึดรถจักรยานยนต์ได้จำนวนมาก จึงได้รุดมาตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ ทะเบียนป้ายแดง ก-90 สภ.บ้านฉาง ซึ่งเป็นรถของตัวเองซื้อมาตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2551 และได้หายไปจากหน้าห้องพักเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2551 เวลาประมาณ 02.00 น.ซึ่งการหายครั้งนี้เป็นการถูกยกขึ้นรถกระบะหายไปไม่ใช่ขี่ออกไปอย่างแน่นอน
สอบสวน นายฝิ่น รับสารภาพว่า ได้ร่วมกับเพื่อนอีก 6 คนออกตระเวนลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ พัทยา และบ้านฉาง จังหวัดระยอง ถ้าเป็นรถเก่าก็ใช้วิธีชำแหละขายอะไหล่ให้กับร้านซ่อม และแต่งซิ่งรถจักรยานยนต์ทั้งในและนอกพื้นที่ และรถบางส่วนได้ขายให้เพื่อนในกลุ่มวัยรุ่นด้วยกันไปหลายคันแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามนำรถมาคืนเจ้าของให้หมด