ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - อบจ.บุรีรัมย์เปิดประชุมสภาครั้งแรก “เมียยี้ห้อย” นั่งเก้าอี้นายก อบจ.คุมฝ่ายบริหาร แถลงนโยบาย 4 สร้างในการพัฒนาจังหวัดต่อสภาฯ เผยปูนบำเหน็จให้เพื่อนพ้องลิ่วล้อ “เนวิน” ทั้งที่สอบตกและได้ใบแดงในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมากันถ้วนหน้า ทั้งตำแหน่งรองนายกฯ-ทีมที่ปรึกษา-เลขานุการนายก อบจ.
วันนี้ ( 26 ก.พ.) นายสันทัด จัตุชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ นัดแรก ที่ห้องประชุมสำนักงาน อบจ.บุรีรัมย์ หลังมีการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รับการรับรองผลการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา มีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) บุรีรัมย์ เข้าร่วมประชุม 38 คน จากสมาชิกทั้งหมด 42 คน
โดยในที่ประชุมได้เสนอและมีมติเอกฉันท์ให้ นายปริญญา สมานประธาน ส.อบจ.เขต อ.เมือง เพื่อนสนิทของ นายเนวิน ชิดชอบ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย (ทรท.) และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจากคดียุบพรรค ทรท.เป็นประธานสภา อบจ.บุรีรัมย์, ด.ต.ธีรวิทย์ ส.อบจ.เขต อ.โนสุวรรณ เป็นรองประธานสภาคนที่ 1 และ นายอุดม จันทวงศ์ ส.อบจ.เขต อ.สตึก เป็นรองประธานคนที่ 2 ส่วน นายวิสิทธิ์ เจริญอิทธิกุล เป็นเลขานุการสภา โดยการประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับนางกรุณา ชิดชอบ นายก อบจ.บุรีรัมย์ คนใหม่ ได้มีการแต่งตั้งฝ่ายบริหาร อบจ.บุรีรัมย์ทั้งหมดแล้ว โดยล้วนเป็นคนสนิทของ นายเนวิน ชิดชอบ โดย นายเสริมศักดิ์ ทองศรี พี่ชาย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลูกพี่ลูกน้องเนวินเป็นรองนายก อบจ.คนที่ 1, นายพรชัย ศรีสุริยันโยธิน ว่าที่ ส.ส.เขต 1 บุรีรัมย์ พรรค พปช.ที่ถูก กกต.ให้ใบแดง เป็นรองนายก อบจ.คนที่ 2 และ นายธวัชชัย กมลมุณีโชติ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 พรรค พปช.ที่สอบตก นั่งรองนายก อบจ.คนที่ 3 ส่วนทีมที่ปรึกษาและเลขานุการนายก อบจ.ต่างเป็นผู้สมัคร ส.อบจ.ในกลุ่มที่สอบตกพลาดหวังจากการเลือกตั้ง ส.อบจ.ทั้งสิ้น
จากนั้นนางกรุณา ชิดชอบ นายกอบจ.บุรีรัมย์ คนใหม่ ได้แถลงนโยบายการบริหารพัฒนาจังหวัดต่อสภา อบจ.บุรีรัมย์ โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาคนบุรีรัมย์ให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า เพื่อเป็นกำลังหลักในการพัฒนาจังหวัดอย่างยั่งยืน โดยจะแบ่งงานออกเป็น 4 ด้าน หรือเรียกว่านโยบาย 4 สร้าง คือ สร้างคุณภาพชีวิต สร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความสุข ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาจังหวัดให้เจริญก้าวหน้าได้ต่อไป