สระแก้วจัดสัมมนาสร้างกระบวนการเรียนรู้การปลูกพืชเศรษฐกิจ

สระแก้ว - จังหวัดสระแก้ว จัดประชุมสัมมนาการสร้างกระบวนการเรียนรู้การปลูกพืชเศรษฐกิจของจังหวัดให้แก่กลุ่มเกษตรกรได้มีทางเลือกในการปลูกพืชเศรษฐกิจให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และคุ้มค่าต่อการลงทุน

วันนี้ (25 ก.พ.) นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาการสร้างกระบวนการเรียนรู้แก่เกษตรกรในการปลูกพืชเศรษฐกิจ จังหวัดสระแก้วปี 2551 โดยมีเกษตรกรในจังหวัดสระแก้วจากทุกอำเภอกว่า 500 คนเข้าร่วมประชุมสัมมนาฯ ซึ่งการจัดประชุมสัมมนาครั้งนี้เพื่อเป็นการแนะนำส่งเสริมให้เกษตรกรได้มีทางเลือกในการปลูกพืชเศรษฐกิจให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และมีความคุมค่าต่อการลงทุน รวมทั้งให้เกษตรกรที่ปลูกพืชเศรษฐกิจอยู่แล้วได้มีความรู้ความเข้าใจในการเพาะปลูกยิ่งขึ้น และถูกต้องตามหลักวิชาการ

นายสุรพล กล่าวว่า จังหวัดสระแก้วเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบเหมาะแก่การทำการเกษตร ประกอบกับจังหวัดสระแก้วมีนโยบายในการส่งเสริมให้เกษตรกรได้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การส่งเสริมให้มีการปลูกพืชเศรษฐกิจให้ได้ผลผลิตมากขึ้น จึงเป็นนโยบายที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการปลูกมันสำปะหลังซึ่งถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด

โดยจากข้อมูลปี 2549 จังหวัดสระแก้ว มีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทั้งหมด 646,559 ไร่ ผลผลิตที่ได้ 2.36 ล้านตันและในปี 2550 มีพื้นที่ปลูกทั้งสิ้น 718,306 ไร่ ผลผลิตที่ได้รวมประมาณ 2.75 ล้านตัน เพิ่มร้อยละ 16.23 โดยในปี 2459 มีผลผลิตต่อไร่เฉลี่ยไร่ละ 3,656 กก.และปัจจุบันผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 3,825 กก.ต่อไร่เพิ่มขึ้น 169 กก.หรือร้อยละ 4.6 ซึ่งจังหวัดสระแก้วมีกลุ่มอุตสาหกรรมมันสำปะหลังรวม 35 โรงงาน ประกอบด้วย โรงงานทำมันเส้น แป้งมัน มันอัดเม็ด อาหารสัตว์ และโรงงานผลิตเอทานอล

ปัจจุบัน หัวมันสดในจังหวัดสระแก้วส่งขายให้โรงงานแป้งมันประมาณ 0.8 ล้านตัน/ปี ลานมันผลิตมันเส้น จำนวน 1.13 ล้านตัน/ปี ส่งผลิตเอทานอล 0.412 ล้านตัน/ปี ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้จะมีโรงงานผลิตเอทานอลมาตั้งที่จังหวัดสระแก้ว 3 โรงงาน ผลิตเอทานอลด้วยมันสำปะหลังเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง 99.5% ทั้ง 3 โรงงาน มีกำลังผลิต 1 ล้านลิตร/วัน ใช้มันเส้นเป็นวัตถุดิบ จำนวน 5 แสนตัน/ปี และใช้หัวมันสด 1.2 ล้านตัน/ปี ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังขายได้ราคาค่อนข้างดี กิโลกรัมละ 1.70-2.00 บาท จากที่ปี 2548-2549 ขายได้เพียงกิโลกรัมละ 1.10-1.20 บาท เท่านั้น

โดยในอนาคตราคาจะอยู่ในเกณฑ์ดีเพราะมีช่องทางในการจำหน่ายให้เลือกเพิ่มขึ้น อีกทั้งในปัจจุบันมีปัญหาสภาวะโลกร้อนและน้ำมันแพงขึ้นมากทำให้เอทานอลเป็นทางเลือกใหม่ของพลังงานทดแทน ทำให้ความต้องการมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งจะทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังไม่เพียงพอกับความต้องการ ดังนั้น การเพิ่มพื้นที่ปลูกจะเป็นไปได้ยาก แนวทางในการเพิ่มผลผลิตต่อไร่เป็นแนวทางที่สามารถเป็นไปได้มากกว่า ปัจจุบันเกษตรกรชาวจังหวัดสระแก้วที่ปลูกมันสำปะหลังมีผลผลิตอยู่ที่ประมาณ 3.8 ตัน/ไร่เท่านั้น

คาดว่าจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด จังหวัดจึงได้จัดประชุมสัมมนาเพื่อเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กับเกษตรกรทุกอำเภอและหาวิธีเหมาะสมในการทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10 ตัน/ไร่ ในอนาคต ซึ่งจะทำให้พื้นที่จังหวัดสระแก้วเป็นแหล่งอุตสาหกรรมการเกษตรตามวิสัยทัศน์ของจังหวัดด้วย