ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แดดเผาแม่น้ำมูลผ่านศรีสะเกษ แห้งขอดจนทำให้ทรายใต้ท้องแม่น้ำมูลโผล่เป็นทางยาวกว่า 1 กม. ชาวบ้านเผยภัยแล้งมาเยือนเร็วกว่าทุกปี แม่น้ำมูลแห้งมานานกว่า 1 เดือนแล้ว ส่งผลกระทบต่อการทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ 2 ฝั่งแม่มูล รวมถึงน้ำดิบสำหรับผลิตประปา อุปโภคบริโภค คาดสงกรานต์ปีนี้ไม่มีน้ำให้นักท่องเที่ยวเล่นสาดน้ำสงกรานต์
วันนี้ (13 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดศรีสะเกษว่า ขณะนี้ทุกพื้นที่ในเขต จ.ศรีสะเกษ กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากปีนี้ความแห้งแล้งมาเร็วกว่าทุกปี อีกทั้งสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัดทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำมูล ซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงชาวอีสานที่ไหลผ่านเมืองศรีสะเกษเริ่มแห้งขอด จนทำให้พื้นทรายลำน้ำมูลโผล่พ้นน้ำสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเป็นระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร (กม.)
ขณะเดียวกัน ได้มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าพากันเข้าไปสร้างแพกลางลำน้ำมูลที่แห้งขอด เพื่อขายอาหาร และเครื่องดื่ม ให้กับบรรดานักท่องเที่ยวและชาวศรีสะเกษที่พากันมาเล่นน้ำในแม่น้ำมูล แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา เพราะสภาพอากาศร้อนประกอบกับภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีและแม่น้ำมูลได้แห้งขอดลงเรื่อยๆ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อประเพณีสงกรานต์ปีนี้ จะไม่มีน้ำให้นักท่องเที่ยวเล่นสาดน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์
นายวิชัย แก้วภักดี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/2 บ้านแก้ง ต.กุดเมืองฮาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า น้ำในแม่น้ำมูลบริเวณนี้ได้เริ่มแห้งขอดมาตั้งแต่เดือน ม.ค.เป็นต้นมา และน้ำได้ขอดลงเรื่อยๆ เพราะอากาศร้อนแผดเผา ทำให้พื้นทรายใต้ท้องแม่น้ำมูลโผล่ขึ้นมาเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กม. ชาวบ้านสามารถเดินข้ามแม่น้ำมูลได้อย่างสบาย โดยช่วงที่แคบที่สุดมีน้ำไหลผ่านห่างเพียง 3 เมตรเท่านั้น
การที่แม่น้ำมูลแห้งขอดอย่างรวดเร็วนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อการทำการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามสองฝั่งแม่น้ำมูล ที่เริ่มขาดแคลนน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภคมากว่า 1 เดือนแล้ว
“คาดไม่ถึงว่าความแห้งแล้งปีนี้จะมาเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา และการที่ระดับน้ำในแม่น้ำมูลแห้งขอดนี้จะส่งผลกระทบต่อน้ำดิบที่จะนำเอาไปใช้ผลิตน้ำประปาเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคในเขตพื้นที่ อ.เมืองศรีสะเกษ และอำเภอต่างๆ ด้วย จึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหานี้โดยด่วนด้วย” นายวิชัย กล่าว