ตำรวจนอกราชการคลั่งรักกระหน่ำยิงกิ๊กและเพื่อนกิ๊กไม่ยั้ง

ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายตำรวจนอกราชการ อดีตพลขับรู้ใจของผู้กำกับ สภ.ศรีราชา คลั่งรักอย่างหนักกระหน่ำยิงกิ๊กและเพื่อนกิ๊กไม่ยั้ง จนเสียชีวิตก่อนหลบหนีและยอมเข้ามอบตัวในเวลาต่อมา

เวลา 03.00 น.วันนี้ (11 ก.พ.) พ.ต.ท.สมชาย มณีรัตน์ สารวัตรเวร สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันเกิดขึ้นภายในบ้านเลขที่ 162/101 หมู่บ้านร้อยหลัง ม.10 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงไปยังที่เกิดเหตุประกอบด้วย พ.ต.อ.ไพรัช สุภาสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.วรพล อินทเส ผกก.สภ.ศรีราชา พ.ต.ท.สวรรค์พร ประดิษฐ์ผล รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.คมกฤษ ศรีผ่องงาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.เทิดศักดิ์ นนตะพันธ์พิพัฒน์ สวป. พญ.แสงเดือน กุดกันยา แพทย์เวรประจำโรงพยาบาลอ่าวอุดม พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและ หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว 2 ห้องนอนพบที่ประตูทางเข้าบ้าน และหน้าต่างห้องนอนด้านนอก ถูกทุบจนกระจกแตกกระจายเต็มพื้น ที่ห้องรับแขก หน้าห้องนอน หน้าห้องน้ำ ตามฝาผนังห้อง มีคราบเลือด อยู่เต็มไปหมด ในห้องนอนห้องแรก บริเวณข้างเตียงนอน เจ้าหน้าที่พบศพนางปรีญากาญจน์ โชติกเวชกุล หรือ แหม่ม อายุ 39 ปี มีอาชีพทำธุรกิจส่วนตัวขายของตามงานโอทอปต่างๆ และเป็นเจ้าของบ้าน นอนคว่ำจมกองเลือดอย่างน่าอนาถ มีบาดแผลถูกยิงกระสุนเจาะเข้าที่ศรีษะ 1 นัด ที่คอทะลุท้ายทอย 1 นัด สะโพกขวา 1 นัด น่องขาขวาอีก 1 นัด

บริเวณที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบตุ๊กตาขนาดใหญ่ 5 ตัวเปื้อนเลือด และที่หน้าห้องนอนมีกล่องของขวัญที่ยังไม่ได้แกะ 2 กล่อง และกล่องขนมเค้กวันเกิดขนาดใหญ่ ที่กินเหลืออยู่ครึ่งก้อน วางอยู่ริมห้องนอนที่พื้นห้องพบแมกกาซีน 1 แม็ก พร้อม ปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม.7 ปลอกตกเกลื่อนพื้นบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน

เจ้าหน้าที่ทราบจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ แจ้งว่า มีผู้ชายที่อยู่ในเหตุการณ์ 2 คน โดยคนหนึ่งบาดเจ็บสาหัส แต่ก็พยายามที่จะขับรถไปโรงพยาบาล ส่วนอีกคนหนึ่งวิ่งถือปืนออกมาจากที่เกิดเหตุและขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับ แต่ก็คว้าน้ำเหลว

จากการตรวจสอบไปตามโรงพยาบาลต่างๆ ปรากฏว่า พบตัว นายอุดมรัตน์ มณีรัตน์ หรือ เบิ้ม อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/12 ม.7 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ถูกยิงด้วยกระสุนปืน ขนาด 9 มม.กระสุนเข้าที่บริเวณขาข้างขวา 2 นัด ข้างศีรษะ 1 นัด แพทย์พยาบาล โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา ได้เร่งนำตัวเข้าห้องไอซียู เพื่อทำการช่วยเหลือชีวิตเป็นการด่วน

จากการสอบสวน น.ส.ไอรดา โชติกเวชกุล อายุ 17 ปี บุตรสาวของผู้เสียชีวิต เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังด้วยน้ำตาคลอเบ้า ว่า เมื่อช่วงเย็นได้ไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ วันเกิดครบรอบ 39 ปี ของ นางปรียากาญจน์ ผู้เป็นมารดา ที่บ่อตกปลาครูเหลิม ศรีราชาฟิสชิ่งปาร์ค บริเวณวัดหนองขาม ในงานมีเพื่อนๆ มาร่วมงานแม่เป็นจำนวนมาก

หลังเลิกงานประมาณตี 2 เพื่อนๆ แม่ได้แยกย้ายกันกลับ ตนเอง แม่ และเพื่อนแม่อีกคนหนึ่ง นั่งมากับรถของ นายอุดมรัตน์ หรือ น้าเบิ้ม เพื่อนสนิทของแม่ เมื่อถึงบ้านตนเองได้เข้าห้องนอนซึ่งติดกับห้องแม่ ขณะกำลังนอนจะหลับก็ได้ยินเสียงคนทุบประตู จะเข้าบ้านแต่เข้าไม่ได้ จึงเปลี่ยนไปทุบหน้าต่าง แต่ก็ยังเข้าไม่ได้ ตนเองออกมาดูเห็นเป็น ร.ต.ต.ปกรณ์ ไทยวรสิทธิ์ อายุ 60 ปี หรือ หมวดปกรณ์ ตำรวจนอกราชการ อดีตตำรวจประจำ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และเป็นอดีตพลขับประจำตัวที่รู้ใจของ พ.ต.อ.วรพล อินทเส ผกก.สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กำลังจะหาอะไรมางัดประตู ตนจึงเดินไปเปิดประตูให้

ทันทีที่ประตูถูกเปิดอก หมวดปกรณ์ ได้ถืออาวุธปืนตรงดิ่งเข้าไปถีบประตูห้องที่แม่และเพื่อนแม่นอนอยู่ ตนเห็นท่าไม่ดีจึงได้วิ่งเข้าห้องไป จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัดติดต่อกัน พร้อมกับเสียงหวีดร้องของแม่ และได้ยินเสียงการต่อสู้กัน พร้อมกับเสียงปืนดังขึ้นมาอีก 4 นัดซ้อนและเมื่อออกมาดูก็เห็นหมวดปกรณ์ ถือปืนวิ่งไปขึ้นรถขับหายไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อวิ่งเข้าไปดูภายในห้องนอนของแม่ก็พบว่าแม่ถูกยิงเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ในห้อง ส่วนน้าเบิ้ม นอนหายใจรวยระรินอยู่ที่หน้าห้อง ก่อนที่น้าเบิ้มจะกระเสือกกระสนเดินไปขึ้นรถขับหายไปอีกคัน จึงได้ร้องให้เพื่อนบ้านช่วยและแจ้งตำรวจทราบในที่สุด

นางสุวิมล แจ่มแจ้ง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 519 ม.4 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่รอดตายจากห่ากระสุนในครั้งนี้ และเป็นเพื่อนสนิท นางปรีญากาญจน์ ผู้ตาย ให้การว่า พี่แหม่ม ผู้ตาย เลิกกับแฟนเก่ามาหลายปีแล้วอยู่บ้านหลังดังกล่าวกับลูกสาว คือ น้องไอรดา 2 คน อาชีพนอกจากจะขายของตามงานโอทอปต่างๆ แล้ว ยังชอบช่วยงานการกุศล โดยเข้าร่วมเป็นวิทยากรพิเศษให้กับลูกเสือชาวบ้านอำเภอศรีราชา และวันนี้กลุ่มเพื่อนๆ วิทยากรลูกเสือชาวบ้านอำเภอศรีราชา ได้ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของแหม่มด้วย โดยมี ร.ต.ต.ปกรณ์ ไทยวรสิทธิ์ หรือ หมวดปกรณ์ อดีตตำรวจศรีราชาที่เพิ่งเกษียณราชการเมื่อสิ้นปี 2550 และเป็นแฟนใหม่ของแหม่ม มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดด้วยเช่นกัน

นางสุวิมล กล่าวต่ออีกว่า ไม่รู้มาก่อนว่า หมวดปกรณ์ จะไม่พอใจในตัวของนายอุดมรัตน์ หรือ เบิ้ม เป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว หลังงานเลิกทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ โดย นายอุดมรัตน์ หรือ เบิ้ม บ้านอยู่กรุงเทพฯ เป็นเพื่อนสนิทของแหม่ ลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน โดยซื้อของจากกรุงเทพฯ และเอามาขายตามงานโอทอปต่างๆ ในชลบุรี นานๆ นายอุดมรัตน์ จะลงมาครั้งหนึ่ง และที่ลงมาครั้งนี้ก็เพราะว่าเป็นงานวันเกิดของแหม่ หลังงานเลิกแหม่ม ได้ชวนตนและนายอุดมรัตน์ ไปนอนค้างที่บ้านและพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ โดยนอนในห้องเดียวกัน 3 คน เพราะสนิท กันมาก จึงไม่ได้คิดอะไร

จนกระทั่งหมวดปกรณ์ พังประตูเข้ามา และบุกเข้ามากระชากนายอุดมรัตน์ หรือ เบิ้ม ที่กำลังนอนอยู่ให้ลุกขึ้นมาและถามขึ้นว่า “มึงจะเอายังไง” พร้อมกับชักปืนออกมากระหน่ำยิงเข้าใส่นายอุดมรัตน์ 3 นัดติดต่อกัน นายอุดมรัตน์ วิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำ หมวดปกรณ์ ก็ตามเข้าไปกระทืบและชกต่อย พร้อมกับตบด้วยปืนจนนายอุดมรัตน์ ฟุบจมกองเลือดกับพื้นห้องน้ำ จากนั้นหมวดปกรณ์ ยังไม่หายบ้าคลั่ง ได้ถือปืนเดินเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง พร้อมกับเข้าไปตบนางแหม่ม จนคว่ำกับพื้น พร้อมกับจิกผมขึ้นมาและชักปืนจ่อที่ศรีษะ ก่อนที่จะเหนี่ยวไกยิงอย่างเลือดเย็น จนร่างของนางแหม่มทรุดลงจมกองเลือดไปทันที

จากนั้น หมวดปกรณ์ ยังได้กระหน่ำยิงเข้าใส่ร่างของนางแหม่ม อีก 2-3 นัด ก่อนที่จะถือปืนวิ่งไปขึ้นรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ล่าสุด ร.ต.ต.ปกรณ์ ไทยวรสิทธิ์ หรือ หมวดปกรณ์ ตำรวจนอกราชการ อดีตตำรวจประจำ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และเป็นอดีตพลขับประจำตัวที่รู้ใจของ พ.ต.อ.วรพล อินทเส ผกก.สภ.ศรีราชา ที่ตกเป็นผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.วรพล อินทเส ผกก.สภ.ศรีราชา เจ้านายเก่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง พ.ต.อ.วรพล อินทเส ผกก.สภ.ศรีราชา ยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับ ร.ต.ต.ปกรณ์ ไทยวรสิทธิ์ หรือ หมวดปกรณ์ อย่างแน่นอน และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างดีที่สุด