หนาวจัดของป่าเมืองน้ำดำแห่ขึ้นราคา

กาฬสินธุ์ - อาหารประเภทของป่าที่จังหวัดกาฬสินธุ์ มีการปรับราคาสูงขึ้นถึง 200 เท่าตัว รวมถึงราคาหนูปรับราคาตาม เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้มีผู้บริโภคมากขึ้น

นายสุพจน์ ปั้นทรัพย์ หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยา จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีการประสานมายังจังหวัดกาฬสินธุ์เพื่อให้มีวิทยุสั่งการแจ้งเตือนราษฎรที่จะต้องผจญกับภัยหนาวเป็นเวลานานไปอีก 3-5 วัน โดยได้มีการแจ้งไปทั้ง 18 อำเภอ ของจังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากสภาพอากาศในพื้นที่จะยังคงหนาวเย็นลงอีกที่จะทำให้พื้นที่บริเวณยอดภู ตามเขตเทือกเขา และหุบเขาต่างๆ จะมีอุณหภูมิที่ 5-7 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยเฉพาะราษฎรที่อยู่บริเวณหุบเขา และยอดภู จะต้องระวังปัญหาสุขภาพมากขึ้นด้วย

ขณะเดียวกัน จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้อาหารประเภทของป่ามีการปรับราคาขึ้นสูง โดยกลุ่มพ่อค้าค้าอ้างสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้กลุ่มนายพรานบางส่วนงดออกหาของป่าที่อยู่ตามเขาและป่าต่างๆ ที่นอกจากนี้ ยังทำให้ของป่าบางประเภทขาดตลาดไปด้วย

นางแดง หาสาหัส อายุ 47 ปี ราษฎรอำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้นายพรานบางส่วนงดออกหาของป่าเพื่อมาจำหน่าย ทำให้ราคาอาหารประเภทนี้ขาดตลาด และมีราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะไข่มดแดง ที่ปกติจะจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 100-120 บาท แต่ปัจจุบันต้องจำหน่ายสูงถึงกิโลกรัมละ 250 บาท เช่นเดียวกับผักหวานป่าที่มีการปรับราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 200 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 80 บาท

จากการสำรวจตลาดของป่ากลางดงระแนง อำเภอห้วยเม็ก อาหารประเภทของป่ามีการปรับราคาขึ้นสูงอย่างเห็นได้ชัด จากการพูดคุยกับนายพรานที่ออกหาของป่ามาจำหน่ายระบุสาเหตุมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวนร้อนหนาวสลับกันทำให้อาหารที่ขึ้นอยู่ธรรมชาติตามเขาและป่าต่างๆ ปรับสภาพไม่ได้ไม่ให้ผลผลิตตามเวลาไปด้วย

หากอากาศจะยังคงหนาวเย็นลงอีก หรือมีระยะเวลานานกว่านี้ก็จะทำให้ของป่าบางรายการขาดตลาดได้โดยเฉพาะหนูพุกที่ปัจจุบันมีราคาสูงขึ้นมากเพราะคนนิยมรับประทานหนูเพื่อแก้หนาวมากขึ้นทำให้ราคาหนูนา หนูพุกมีราคาสูงจากเดิมจะมีการขายในหมู่บ้านตัวละ 10-20 บาทหรือนำมาแจกจ่ายกันแต่ขณะที่อากาศหนาวเย็น ทำให้ราคาสูงถึงตัวละ 100 บาทแล้ว