จันทบุรี - สำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 นำเจ้าหน้าที่การเกษตรภาคตะวันออกร่วมประมาณการปริมาณผลผลไม้ที่จะออกสู่ตลาด พร้อมเตรียมวางแนวทางบริหารจัดการในปี 2551
นางปาริชาติ ศรีวิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี ระยองตราด และเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขตที่ 6 รวม 30 คน ประเมินสถานการณ์การออกดอกและการติดของผลไม้ 4 ชนิด ได้แก่ทุเรียน เงาะ มังคุดและลองกอง ในพื้นที่ 3 จังหวัด เพื่อหาแนวทางจัดการข้อมูลประมาณการผลผลิต และเตรียมบริหารจัดการผลไม้ของภาคตะวันออกปี 2551
สำหรับการประมาณการผลผลิตทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง ในเบื้องต้น รวมของทั้งจังหวัดจันทบุรี ระยองและตราดปี 2551 การประมาณคาดว่าทุเรียนจะมีผลผลิตจำนวน 373,761 ตัน ลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 2 % โดยในช่วงเดือนพฤษภาคมจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุด เงาะจะมีผลผลิตจำนวน 266,626 ตัน ลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 8 %
ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายนจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุด มังคุดจะมีผลผลิตจำนวน 84,585 ตัน ลดลงจากปีที่แล้ว ประมาณ 24 % ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายนเป็นระยะที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุด ส่วนลองกองจะมีผลผลิตจำนวน 40,522 ตัน ลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 28 % ช่วงเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุด แต่ทั้งนี้การประมาณการผลผลิตดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามสถานการณ์
นางปาริชาติ ศรีวิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี ระยองตราด และเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขตที่ 6 รวม 30 คน ประเมินสถานการณ์การออกดอกและการติดของผลไม้ 4 ชนิด ได้แก่ทุเรียน เงาะ มังคุดและลองกอง ในพื้นที่ 3 จังหวัด เพื่อหาแนวทางจัดการข้อมูลประมาณการผลผลิต และเตรียมบริหารจัดการผลไม้ของภาคตะวันออกปี 2551
สำหรับการประมาณการผลผลิตทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง ในเบื้องต้น รวมของทั้งจังหวัดจันทบุรี ระยองและตราดปี 2551 การประมาณคาดว่าทุเรียนจะมีผลผลิตจำนวน 373,761 ตัน ลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 2 % โดยในช่วงเดือนพฤษภาคมจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุด เงาะจะมีผลผลิตจำนวน 266,626 ตัน ลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 8 %
ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายนจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุด มังคุดจะมีผลผลิตจำนวน 84,585 ตัน ลดลงจากปีที่แล้ว ประมาณ 24 % ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายนเป็นระยะที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุด ส่วนลองกองจะมีผลผลิตจำนวน 40,522 ตัน ลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 28 % ช่วงเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุด แต่ทั้งนี้การประมาณการผลผลิตดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามสถานการณ์