พะเยา – เมืองกว๊านพะเยาเตรียมแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.อบจ.ใหม่ทั้งจังหวัด หลังประชากรในสำเนาทะเบียนบ้านลดลง จนต้องลดจำนวน ส.อบจ.ลงเหลือ 24 คนจาก 30 คน ขณะที่นักการเมืองท้องถิ่นเร่งเกลี่ยผู้สมัครไม่ให้ขัดขากันเอง
นางสาวมุกดา ดีวงศ์ษา ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พะเยา กล่าวว่า สืบเนื่องจากประชากรจังหวัดพะเยาในปัจจุบันไม่ถึง 500,000 คน มีผลทำให้สภา อบจ.พะเยามี ส.อบจ.ได้เพียง 24 คน จากเดิม 30 คน ดังนั้น ในอนาคต อบจ.พะเยาจะต้องแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.อบจ. ใหม่ทั่วจังหวัดตามจำนวน ส.อบจ. โดยยึดกฎเกณฑ์เดิมที่มี คือ การพิจารณาเรื่องพื้นที่ติดต่อกัน และจำนวนประชากรแตกต่างกันน้อยที่สุด
ขณะนี้ อบจ.กำลังอยู่ในระหว่างการสรรหาบุคคลเพื่อมาทำหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประจำ อบจ.พะเยา ชุดใหม่ เพื่อมาดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ส.อบจ. ที่จะครบวาระในวันที่ 14 มีนาคม 2551 นี้ เบื้องต้น อบจ.ได้นำส่งรายชื่อบุคคลที่ผ่านการสรรหาขั้นตอนแรกให้แก่ กกต.ประจำจังหวัดเพื่อส่งต่อไปยัง กกต.กลาง พิจารณาและประกาศ กกต.อบจ.พะเยาอย่างเป็นทางการแล้ว
ปลัด อบจ.พะเยากล่าวต่อว่า ภายหลังที่มี กกต.อบจ.ชุดใหม่ขึ้นมาแล้ว ภารกิจขั้นตอนต่อไปคือการจัดการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.อบจ.ขึ้นใหม่ โดยจะต้องรอการประกาศจำนวนประชากรอย่างเป็นทางการจากสำนักทะเบียนกลาง ซึ่ง อบจ.พะเยาจะประสานขอทราบจำนวนประชากรจังหวัดพะเยาจากสำนักงานทะเบียนเขตสาขาจังหวัดพะเยา
จากนั้นจึงจะนำเข้ามาสู่กระบวนการของการจัดประชุม เพื่อหารือแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.อบจ.ตามขั้นตอนที่เหมาะสมให้ได้ 24 เขตเลือกตั้ง คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ก่อนที่สภา อบจ.จะครบวาระ
ด้านบรรดา ส.อบจ.ที่มีอยู่เดิมจำนวน 30 คน ได้มีการเจรจากันในหลายพื้นที่เพื่อสับเปลี่ยนและวางตัวบุคคลที่จะลงสมัคร ส.อบจ.ในครั้งต่อไปแล้ว นายเสนีย์ พ่วงภิญโญ อดีต ส.อบจ. เขต 3 อ.เชียงคำ จ.พะเยา
ว่าที่รองนายก อบจ.พะเยา กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ อ.เชียงคำ เดิมมี ส.อบจ. 5 คน จะลดเหลือเพียง 4 คน ต้องมีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ โดยในการนี้ตนคิดว่าไม่มีปัญหาเนื่องจาก ส.อบจ.เดิม ได้หารือและตกลงกันเบื้องต้น ขณะเดียวกัน ส.อบจ.หลายคนก็ได้เร่งมือหาเสียงในเขตพื้นที่ที่คาดว่าจะมีการแบ่งเขตใหม่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ทุกคนยังได้ร่วมกันหาเสียงเป็นทีมงานเดียวกัน ส่วนเรื่องการจะมีคนใหม่เข้ามาร่วมทีม และลงแข่งขันกัน เพื่อตัดคะแนนกันเองนั้นคงไม่เกิดขึ้น
นางสาวมุกดา ดีวงศ์ษา ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พะเยา กล่าวว่า สืบเนื่องจากประชากรจังหวัดพะเยาในปัจจุบันไม่ถึง 500,000 คน มีผลทำให้สภา อบจ.พะเยามี ส.อบจ.ได้เพียง 24 คน จากเดิม 30 คน ดังนั้น ในอนาคต อบจ.พะเยาจะต้องแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.อบจ. ใหม่ทั่วจังหวัดตามจำนวน ส.อบจ. โดยยึดกฎเกณฑ์เดิมที่มี คือ การพิจารณาเรื่องพื้นที่ติดต่อกัน และจำนวนประชากรแตกต่างกันน้อยที่สุด
ขณะนี้ อบจ.กำลังอยู่ในระหว่างการสรรหาบุคคลเพื่อมาทำหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประจำ อบจ.พะเยา ชุดใหม่ เพื่อมาดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ส.อบจ. ที่จะครบวาระในวันที่ 14 มีนาคม 2551 นี้ เบื้องต้น อบจ.ได้นำส่งรายชื่อบุคคลที่ผ่านการสรรหาขั้นตอนแรกให้แก่ กกต.ประจำจังหวัดเพื่อส่งต่อไปยัง กกต.กลาง พิจารณาและประกาศ กกต.อบจ.พะเยาอย่างเป็นทางการแล้ว
ปลัด อบจ.พะเยากล่าวต่อว่า ภายหลังที่มี กกต.อบจ.ชุดใหม่ขึ้นมาแล้ว ภารกิจขั้นตอนต่อไปคือการจัดการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.อบจ.ขึ้นใหม่ โดยจะต้องรอการประกาศจำนวนประชากรอย่างเป็นทางการจากสำนักทะเบียนกลาง ซึ่ง อบจ.พะเยาจะประสานขอทราบจำนวนประชากรจังหวัดพะเยาจากสำนักงานทะเบียนเขตสาขาจังหวัดพะเยา
จากนั้นจึงจะนำเข้ามาสู่กระบวนการของการจัดประชุม เพื่อหารือแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.อบจ.ตามขั้นตอนที่เหมาะสมให้ได้ 24 เขตเลือกตั้ง คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ก่อนที่สภา อบจ.จะครบวาระ
ด้านบรรดา ส.อบจ.ที่มีอยู่เดิมจำนวน 30 คน ได้มีการเจรจากันในหลายพื้นที่เพื่อสับเปลี่ยนและวางตัวบุคคลที่จะลงสมัคร ส.อบจ.ในครั้งต่อไปแล้ว นายเสนีย์ พ่วงภิญโญ อดีต ส.อบจ. เขต 3 อ.เชียงคำ จ.พะเยา
ว่าที่รองนายก อบจ.พะเยา กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ อ.เชียงคำ เดิมมี ส.อบจ. 5 คน จะลดเหลือเพียง 4 คน ต้องมีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ โดยในการนี้ตนคิดว่าไม่มีปัญหาเนื่องจาก ส.อบจ.เดิม ได้หารือและตกลงกันเบื้องต้น ขณะเดียวกัน ส.อบจ.หลายคนก็ได้เร่งมือหาเสียงในเขตพื้นที่ที่คาดว่าจะมีการแบ่งเขตใหม่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ทุกคนยังได้ร่วมกันหาเสียงเป็นทีมงานเดียวกัน ส่วนเรื่องการจะมีคนใหม่เข้ามาร่วมทีม และลงแข่งขันกัน เพื่อตัดคะแนนกันเองนั้นคงไม่เกิดขึ้น
