ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจรวบเดนนรกฆ่าเจ้าอาวาสวัดเขาบำเพ็ญบุญสัตหีบ ขณะไปลาเมียที่พัทยา นำตัวขอขมาศพทำแผนรับสารภาพ เผยคนร้ายเป็นลูกบุญธรรม โกรธที่เจ้าอาวาสนำเรื่องขโมยเงินตู้บริจาคไปเปิดเผย และเห็นเหตุการณ์ขณะงัดตู้จึงฆ่าปิดปาก จนท.วางกำลังนับร้อยป้องกันเหตุศิษย์รุมประชาทัณฑ์
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุ พระมหาบุญชู อติภัทโท อายุ 69 ปี เจ้าอาวาสวัดเขาบำเพ็ญบุญ หมู่ที่ 8 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ถูกคนร้ายบุกขึ้นมาบนศาลาการเปรียญ และใช้อาวุธมีดเสือซ่อนเล็บ แทงที่บริเวณหน้าอก และ หน้าท้อง จำนวน 13 แผล พลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลก่อนมรณภาพ
พลตำรวจตรี นิวัฒน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พันตำรวจเอก สุภธีร์ บุญครอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ และชุดสืบสวน ได้พบหลักฐานกล้องวงจรปิด และพยานบุคคลยืนยันว่า คนที่ฆ่าเจ้าอาวาส ก็คือ นายบุญทิ้ง ธรรมชาติ อายุ 22 ปี ลูกบุญธรรมที่เจ้าอาวาสได้ชุบเลี้ยงไว้ตั้งแต่เยาว์วัย เป็นคนลงมือเอง
ความคืบหน้าในวันนี้ (26 ม.ค.) เวลา 10.00 น.พันตำรวจเอกสุภธีร์ บุญครอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ได้ขออนุมัติหมายจับ นายบุญทิ้ง ธรรมชาติ อายุ 22 ปี เลขที่ 131/2551 ลง 25 ม.ค.2551 จากศาลจังหวัดพัทยาพร้อมตำรวจชุดสืบสวน วางแผนติดตามจับกุมตัว โดยมี พันตำรวจโท สยามรัฐ รุ่งเรือง รองผู้กำกับสืบสวน พันตำรวจโท เชษฐา กีชวรรณ์ รองผู้กำกับปราบปราม พันตำรวจโท สุธรรม ชาวศรีทอง สารวัตรปราบปราม พันตำรวจตรี วันชัย ทุมทอง สารวัตรสืบสวน ได้ประกบภรรยาซึ่งทำงานอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านหาดจอมเทียน ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง เพราะทราบว่า นายบุญทิ้ง ยังวนเวียนเพื่อจะไปลาเมีย และสามารถจับกุมตัวได้ขณะขี่รถจักรยานยนต์ไปหาภรรยา
จากการสอบสวน นายบุญทิ้ง ให้การรับสารภาพว่า เกิดความโกรธแค้นที่เจ้าอาวาสนำเรื่องงัดตู้บริจาค และเงินผ้าป่าไปจากวัดทั้งหมด 5 ครั้งไปเปิดเผย ซึ่งประกอบกับในวันเกิดเหตุได้ขึ้นไปบนวัดเพื่อขโมยเงินในตู้ด้วยการใช้ไม้ทากาวแล้วแหย่ลงไปแตะธนบัตรพอดีกับที่เจ้าอาวาสเดินเข้ามาพบจึงเกิดเกรงความผิดจึงได้ตัดสินใจจ้วงแทงเจ้าอาวาสจนล้ม และมาแทงซ้ำให้ตายเพื่อปิดปากในเรื่องที่พบในการกระทำความผิด
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว นายบุญทิ้ง ไปทำพิธีขอขมากรรมต่อหน้าศพ ณ ศาลาการเปรียญ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจอาสา อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ประมาณ 100 คนสมทบคุ้มกัน เพราะได้มีประชาชน ศิษยานุศิษย์มากกว่า 200 คน มารอดูการทำแผนรับสารภาพ และพยายามฝ่าวงล้อมเข้าไปทำร้ายนายบุญทิ้ง แต่ตำรวจป้องกันไว้ได้
พันตำรวจเอกสุภธีร์ บุญครอง เปิดเผยว่า หลังจากที่ชุดติดตามจับกุมทราบว่านายบุญทิ้งมีภรรยาทำงานอยู่ที่พัทยาจึงได้เฝ้าประกบเพราะทราบว่าจะต้องมาหาภรรยา และในที่สุดนายบุญทิ้ง ก็ขี่รถจักรยานยนต์มาหาภรรยาเพื่อลาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนหลบหนีเอาตัวรอด จึงได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้และลักทรัพย์สถานที่บูชาสาธารณะในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ