เมืองชลฯ เขียนเสือจัดระเบียบร่มเตียงชายหาดพัทยา

ศูนย์ข่าวศรีราชา-ร่มเตียงพัทยายื้อไม่รอด หลังจังหวัดชลบุรี ออกประกาศจัดระเบียบหาดอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมมีมติจากคณะกรรมการในการประชุมครั้งล่าสุด ถือกำหนดเป็นเด็ดขาดให้มีสิทธิ์ครอบครองเพียง 1 รายต่อ 1 ล็อค ในขนาดพื้นที่ 7x7 เมตร ปรับลดเป็นที่สาธารณะกว่า 70 % ด้านรองผู้ว่าฯ ไม่หวั่นม็อบชี้ถึงเวลาคืนกำไรสังคม

วันนี้ (25 ม.ค. 51) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดระเบียบที่สาธารณะชายหาดพัทยาและชายหาดจอมเทียน ครั้งที่ 1 หลังจากได้รับคำสั่งแต่งตั้งจากจังหวัดชลบุรีอย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมพิจารณาแก้ไขปัญหาของการจัดระเบียบชายหาดพัทยาและจอมเทียน โดยมีคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากเมืองพัทยา อำเภอบางละมุง กอ.รมน.จังหวัดชลบุรี ฐานทัพเรือสัตหีบ มณฑลทหารบกที่ 14 สำนักงานขนส่งทางน้ำ ที่ดินจังหวัด และตัวแทนจาก สภ.บางละมุง และสภ.เมืองพัทยา

นายฉัตรป้อง กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดชลบุรีได้มีประกาศที่ มท.0822.4/1409 ให้ทำการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาการจัดระเบียบท่องเที่ยวใหม่ โดยเฉพาะบริเวณชายหาดพัทยา ถือเป็นมรดกโลก ที่ปัจจุบันมีปัญหาผู้ประกอบการร่ม-เตียง ทำการยึดพื้นที่สาธารณะ โดยการจับจองเป็นเจ้าของและดำเนินธุรกิจ ซึ่งขาดความเป็นระเบียบ ขาดความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัย และเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ที่สำคัญมีการยึดพื้นที่สาธารณะเต็มพื้นที่ โดยไม่เปิดให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งถือเป็นการลิดรอนสิทธิ์เพราะประชาชนถือเป็นเจ้าของที่ดินสาธารณะ

ทั้งนี้ จากปัญหาดังกล่าวผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี จึงมีนโยบายให้จัดระเบียบใหม่ เพื่อขอคืนพื้นที่สาธารณะแก่สังคมโดยรวม โดยมีข้อกำหนดให้จัดสรรพื้นที่คืนจำนวน 50 % ของพื้นที่โดยรวม และให้ผู้ประกอบการถือสิทธิ์ครอบครองได้เพียง 1 รายต่อ 1 ล็อคเท่านั้น

ทั้งนี้ จากการรับฟังการบรรยายสรุปของเมืองพัทยาทราบว่า สำหรับพื้นที่ชายหาดเมืองพัทยามีพื้นที่ 2,600 เมตร มีผู้ประกอบการจำนวน 108 ราย รวม 274 ล็อค ใช้พื้นที่ไปกว่า 73.8% ขณะที่ชายหาดจอมเทียนมีพื้นที่รวม 5,780 เมตร มีผู้ประกอบการจำนวน 256 ราย รวม 454 ล็อค ใช้พื้นที่โดยรวม 55 %

จากผลของการพิจารณาของคณะกรรมการ จึงมีบทสรุปที่จะให้เปิดดำเนินการในส่วนของผู้ประกอบได้เฉพาะรายที่มีรายชื่อมีสิทธิ์ครอบครองเท่านั้น คือ ชายหาดพัทยาให้เหลือผู้ประกอบการเพียง 108 ราย จึงเหลือพื้นที่สาธารณะ 71 % และหาดจอมเทียนให้เหลือเพียง 256 ราย จึงจะทำให้เหลือพื้นที่สาธารณะ 69 % ทั้งนี้ได้ทำการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการโดยมีนายอำเภอบางละมุงเป็นประธาน เพื่อพิจารณาช่องว่างและการจัดลานกิจกรรมที่เหมาะสมอีกครั้ง รวมทั้งเรื่องของสิทธิประโยชน์ค่าตอบแทน ที่เมืองพัทยาจะได้รับด้วย

นายฉัตรป้อง กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีดังกล่าวจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลา 30 วันจากนี้ ขณะที่ปัญหาของการก่อม็อบ ตรงนี้คงเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน แต่ทุกอย่างที่ดำเนินการก็เพื่อประโยชน์ส่วนรวม และผู้ประกอบการเองก็หากินกับเมืองพัทยามานาน จึงถึงเวลาที่จะคืนประโยชน์แก่สังคมบ้าง เพราะหากไม่ดำเนินการก็จะถือเป็นปัญหาหมักหมม ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

ส่วนที่ว่าจะมีการฟ้องร้องต่อศาลปกครองนั้น เรื่องนี้คงไม่รู้สึกหวั่นใจอะไร เพราะคงดำเนินการไม่ได้ เนื่องจากที่ดินดังกล่าวเป็นที่สาธารณะและเป็นสมบัติของแผ่นดิน ดังนั้น ศาลเองก็คงไม่รับเรื่องพิจารณาดังกล่าว ขณะผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ยินยอมออกจากพื้นที่นั้นคงจะต้องใช้อำนาจของกฎหมายเข้ามาจัดการ โดยจะนำเรื่องส่งฟ้องอัยการ เพื่อจัดการขั้นเด็ดขาด ซึ่งมีโทษถึงจำคุกไม่เกิน 2 ปี