ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “หลวงพ่อคูณ” เครียด! หลังพักรักษาอาพาธที่ รพ.นานร่วม 10 วัน แพทย์ห่วงคนไข้เบื่อโรงพยาบาลเป็นอุปสรรคต่อการรักษา จึงอนุญาตให้กลับวัดบ้านไร่พรุ่งนี้ เผยอาการทุกอย่างเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังถ่ายมีเลือดปนเล็กน้อย เหตุแผลบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ยังไม่หายสนิท สั่งงดเยี่ยมเด็ดขาด 2 สัปดาห์แรก เกรงติดเชื้ออีก พร้อมส่งแพทย์ติดตามอาการใกล้ชิดถึงวัดบ้านไร่
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธ ของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นวันที่ 10 หลังถูกนำส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต หนาวสั่น มีไข้สูง เมื่อคืนวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (23 ม.ค.) นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัว เปิดเผยว่า หลังจากเข้าตรวจอาการของหลวงพ่อคูณในช่วงบ่ายวันนี้ (23 ม.ค.) พบว่า อาการโดยรวมดีขึ้น ระบบร่างกายทุกอย่างเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ไม่มีไข้ ความเข้มข้นของเลือดคงที่ แต่ยังถ่ายมีเลือดปนเล็กน้อย ซึ่งคาดว่า เป็นเลือดที่ซึมออกมาจากแผลที่ยังไม่หายสนิทในบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลายและทวารหนัก
อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตอาการของหลวงพ่อคูณ พบว่า เริ่มมีอาการเครียด และเบื่อ อาจเป็นเพราะพักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลนานถึง 10 วัน จึงทำให้หลวงพ่อมีอาการเช่นนี้เกิดขึ้น ซึ่งคณะแพทย์มีความเป็นห่วงในอาการดังกล่าว เพราะหากคนไข้เกิดอาการเบื่อโรงพยาบาล ไม่ยอมรักษา ก็จะเป็นอุปสรรคของแพทย์ผู้รักษาอย่างยิ่ง และหากเกิดอาการเครียดก็จะทำให้สุขภาพของท่านอ่อนแอลง เนื่องจากหลวงพ่อมีโรคประจำตัวหลายอย่างรุมเร้า ถ้าสุขภาพจิตไม่ดีจะทำให้โรคกำเริบขึ้นได้
ฉะนั้น คณะแพทย์จึงมีความเห็นว่า หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นในช่วงคืนนี้ ในวันพรุ่งนี้ (24 ม.ค.) จะอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ได้ โดยหลังจากที่หลวงพ่อฉันภัตตาหารเช้าเสร็จก็จะให้เดินทางกลับทันที ทั้งนี้ เพื่อให้ท่านมีสุขภาพจิตดีขึ้นกว่าพักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลานาน
นพ.พินิศจัย กล่าวว่า หลังจากหลวงพ่อกลับไปวัดบ้านไร่แล้ว ทางคณะแพทย์ของโรงพยาบาลด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา จะเฝ้าติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิด และรายงานให้ทราบทุกระยะ โดยในช่วง 2 สัปดาห์แรก ได้สั่งงดเยี่ยมอย่างเด็ดขาด เพราะเกรงว่าหลวงพ่อจะติดเชื้อได้ ซึ่งโรคริดสีดวงทวารหนักที่ท่านเป็นอยู่นั้น หากจะรักษาให้แผลหายสนิทก็คงต้องใช้เวลานานเป็นเดือน
“ต้องขอความร่วมมือจากศิษยานุศิษย์และญาติโยมทั่วประเทศ ว่า ในช่วง 2 สัปดาห์แรกไม่ควรเดินทางไปกราบนมัสการท่าน เพราะท่านยังไม่แข็งแรง พวกเราต้องช่วยกันดูแลรักษาท่านให้อยู่กับเรานานที่สุด และหลังจากช่วง 2 สัปดาห์ไปแล้วหากจะเข้ากราบนมัสการก็ควรอยู่ห่างจากท่านอย่างน้อย 1 เมตร” นพ.พินิศจัย กล่าว