พบโครงกระดูกเด็กจมอยู่สระน้ำกลางทุ่งนา ชาวบ้านช่วยเก็บกู้ ขณะที่พ่อเด็กรุดดูมั่นใจเป็นลูกชายวัย 2 ขวบที่หายไปนานกว่า 2 ปี
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (20 ม.ค.) ร.ต.ท.เฉลียว โมรีย์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลหนองคาย ได้ร่วมกันตรวจพิสูจน์โครงกระดูกที่ชาวบ้านพบในสระน้ำกลางทุ่งนาบ้านบุ่งเล ต.เวียงคุก ขณะที่ทำการสูบน้ำออกจากสระน้ำเพื่อจับปลา และชาวบ้านได้ช่วยกันเก็บขึ้นมา
โดยแพทย์ชันสูตรพบว่าเป็นโครงกระดูกส่วนหัวกะโหลก 4 ชิ้น, กระดูกกราม มีฟันติด 4 ซี่, กระดูกส่วนขาท่อนล่าง 2 ชิ้น, ขาท่อนบน 2 ชิ้น, กระดูกท่อนแขน 3 ชิ้น และ กระดูกซี่โครง 5ชิ้น นอกจากนี้ยังพบเสื้อเด็กติดอยู่ด้วย 1 ตัว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์อยู่นั้นได้มีนายสายัณห์ วัจรินทร์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 2 ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย เข้ามาดูโครงกระดูกเมื่อเห็นเสื้อเด็กก็ร้องไห้โฮออกมาและบอกว่าเป็นเสื้อของลูกชายของตนเองที่หายไปจากบ้านนานประมาณ 2 ปีแล้ว
นายสายัณห์ กล่าวว่า ตนแยกทางกับภรรยาและนำลูกชาย คือ ด.ช.พุทธิพงศ์ หรือ น้องโน้ต อายุ 2 ปี 8 เดือน มาให้ปู่ย่าเลี้ยง ส่วนตนมีภรรยาใหม่ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 ส.ค.2548 ซึ่งเป็นช่วงปักดำต้นกล้าในนา ปู่ย่าได้พาน้องโน้ตไปพักยังกระท่อมปลายนาเพื่อนำไปเลี้ยงที่นาด้วย แต่ปรากฏว่าขณะที่ปู่ย่าช่วยกันดำนาอยู่กลางทุ่งไม่ทันสังเกตว่าน้องโน้ตอยู่ไหน
จนตกเย็นออกตามหาก็ไม่พบ และได้เข้าแจ้งความว่าน้องโน้ตหายไป ซึ่งไม่ทราบข่าวลูกชายอีกเลย จนกระทั่งได้ยินข่าวว่าพบโครงกระดูกจึงมาดูและจำเสื้อตัวที่พบในที่เกิดเหตุได้แม่นยำว่าเป็นเสื้อของลูกชายตัวเองอย่างแน่นอน และเชื่อว่าโครงกระดูกที่พบเป็นลูกชายของตนเอง
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นแพทย์ได้นำโครงกระดูกทั้งหมดไปเก็บไว้เพื่อทำการตรวจพิสูจน์ซากกระดูกและตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของนายสายัณห์และโครงกระดูกว่าตรงกันหรือไม่ในลำดับต่อไป
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (20 ม.ค.) ร.ต.ท.เฉลียว โมรีย์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลหนองคาย ได้ร่วมกันตรวจพิสูจน์โครงกระดูกที่ชาวบ้านพบในสระน้ำกลางทุ่งนาบ้านบุ่งเล ต.เวียงคุก ขณะที่ทำการสูบน้ำออกจากสระน้ำเพื่อจับปลา และชาวบ้านได้ช่วยกันเก็บขึ้นมา
โดยแพทย์ชันสูตรพบว่าเป็นโครงกระดูกส่วนหัวกะโหลก 4 ชิ้น, กระดูกกราม มีฟันติด 4 ซี่, กระดูกส่วนขาท่อนล่าง 2 ชิ้น, ขาท่อนบน 2 ชิ้น, กระดูกท่อนแขน 3 ชิ้น และ กระดูกซี่โครง 5ชิ้น นอกจากนี้ยังพบเสื้อเด็กติดอยู่ด้วย 1 ตัว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์อยู่นั้นได้มีนายสายัณห์ วัจรินทร์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 2 ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย เข้ามาดูโครงกระดูกเมื่อเห็นเสื้อเด็กก็ร้องไห้โฮออกมาและบอกว่าเป็นเสื้อของลูกชายของตนเองที่หายไปจากบ้านนานประมาณ 2 ปีแล้ว
นายสายัณห์ กล่าวว่า ตนแยกทางกับภรรยาและนำลูกชาย คือ ด.ช.พุทธิพงศ์ หรือ น้องโน้ต อายุ 2 ปี 8 เดือน มาให้ปู่ย่าเลี้ยง ส่วนตนมีภรรยาใหม่ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 ส.ค.2548 ซึ่งเป็นช่วงปักดำต้นกล้าในนา ปู่ย่าได้พาน้องโน้ตไปพักยังกระท่อมปลายนาเพื่อนำไปเลี้ยงที่นาด้วย แต่ปรากฏว่าขณะที่ปู่ย่าช่วยกันดำนาอยู่กลางทุ่งไม่ทันสังเกตว่าน้องโน้ตอยู่ไหน
จนตกเย็นออกตามหาก็ไม่พบ และได้เข้าแจ้งความว่าน้องโน้ตหายไป ซึ่งไม่ทราบข่าวลูกชายอีกเลย จนกระทั่งได้ยินข่าวว่าพบโครงกระดูกจึงมาดูและจำเสื้อตัวที่พบในที่เกิดเหตุได้แม่นยำว่าเป็นเสื้อของลูกชายตัวเองอย่างแน่นอน และเชื่อว่าโครงกระดูกที่พบเป็นลูกชายของตนเอง
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นแพทย์ได้นำโครงกระดูกทั้งหมดไปเก็บไว้เพื่อทำการตรวจพิสูจน์ซากกระดูกและตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของนายสายัณห์และโครงกระดูกว่าตรงกันหรือไม่ในลำดับต่อไป