นครปฐม - ตำรวจภูธรภาค 7 แถลงข่าวจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้เพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่มีภาพใบหน้าพิมพ์อยู่ในปฏิทินสวัสดีปีใหม่ 2551 ของทางตำรวจภูธรภาค 7 โดยมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
วันนี้ (16 ม.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 7 อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พร้อมด้วย พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รอง ผบช.ภ.7 พ.ต.อ.ธเนษฐ สุนทรสุข รอง ผบก.ศสส.ภ.7 พ.ต.อ.สมชาย รักเสนาะ ผกก.กสส.ศสส.ภ.7 และ พ.ต.ต.สำราญ กลั่นมา สว.ศสส.ภ.7 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติด
โดยการจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายจเร หรือโรจน์ สายหยุด อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.2 ต.บ้านสระ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ เลขที่ 409/2548 ลงวันที่ 15 ก.ค.48 จากศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายจเร หรือโรจน์ สายหยุด ได้ที่บริเวณวัดพุทไธสวรรค์ ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และให้การรับสารภาพ
สำหรับนายจเร เป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่ปี 2548 โดยเหตุเกิดเมื่อวันที 26 พ.ค.48 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการล่อซื้อยาบ้า 500 เม็ด จากนายจเร และนางสมคิด สายหยุด ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ซึ่งนายจเร หลบหนีไปได้ ส่วนนางสมคิด ถูกจับกุมและต้องโทษ 25 ปี และในการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่านายจเรหลบหนีไปทำงานเป็นช่างทาสี ที่วัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา และเปลี่ยนชื่อเป็น “จ๊อด” จึงได้เข้าไปตรวจสอบและจับกุมตัว โดยเบื้องต้นนายจเร ให้การว่าเพิ่งก่อเหตุเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว โดยได้รับค่าจ้างในการนำส่งยาบ้า 2,000 บาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภาค 7 เปิดเผยว่า ผลจากการพิมพ์ใบหน้าผู้ต้องหารายสำคัญ ลงในปฏิทินสวัสดีปีใหม่ 2551 ทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้จึงเร่งพิมพ์ปฏิทินเพิ่มเติมอีก 7,500 ชุด เพื่อแจกจ่ายให้แก่หน่วยงานต่างๆ รวมทั้งประชาชนที่โทรศัพท์เข้ามาขอปฏิทิน และทางภาค 7 ได้มีนโยบายที่จะจัดพิมพ์ปฏิทินชุดที่ 2 ซึ่งจะพิมพ์ภาพใบหน้าผู้ต้องหารายอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งยังประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ต้องหารายอื่นๆ ให้เข้ามอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป