เชียงราย - ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ระบุพบคนเมืองพ่อขุนฯ-พะเยา เริ่มจุดไฟเผาป่าเตรียมพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หวั่นก่อวิกฤตหมอกควันซ้ำ วอนชาวบ้านจัดตารางเผาลดปัญหา ขู่หากฝ่าฝืนจัดการตามกฎหมายทันที ด้านจังหวัดเชียงรายเตรียมจัดกิจกรรมโครงการ “เชียงรายไร้หมอกควัน ร่วมใจกัน ลด เลิก เผา”
นายวิฑูรย์ เริ่มวิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จากการบินตรวจพื้นที่ในเขต จ.เชียงราย - พะเยา พบว่าเริ่มมีราษฎรจุดไฟเผาป่าเตรียมพื้นที่เพาะปลูกและเผาเศษวัสดุในครัวเรือน เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าประชาชนไม่ให้ความร่วมมืองดการเผาก็จะทำให้เกิดเหตุการณ์หมอกควันพิษ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และด้านสิ่งแวดล้อม จนต้องประกาศเขตภัยพิบัติเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมาแน่นอน
นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 15 มกราคม–15 พฤษภาคม 2551 ซึ่งถือว่าเป็นช่วง 120 วัน ที่มีความเสี่ยงที่สุดในการที่จะเกิดหมอกควันพิษ รัฐบาลและหน่วยงานทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้ขอความร่วมมือจากประชาชนในการเผาในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี แต่หากยังมีการฝ่าฝืนก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ส่วนมาตรการที่ทางจังหวัดเชียงราย ได้กำหนดไว้ก็คือ หากราษฎรมีความจำเป็นที่จะต้องเผาก็ขอให้แจ้งที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นผู้กำหนดพื้นที่ เวลา ที่สามารถเผาได้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการลดปัญหาได้ในระดับหนึ่ง
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ดังนั้น จึงขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่อย่าได้เผาเพื่อเตรียมพื้นที่ทำกิน หรือ เผาตอซังฟางข้าว และหันมาใช้การกำจัดหรือทำลายเศษวัชพืชต่าง ๆ ด้วยวิธีอื่น ที่จะไม่ทำให้เกิดหมอกควันพิษ เช่น การทำเป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ แทน หรือหากมีความจำเป็นต้องเผาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ให้รวมกองพร้อมทำแนวกันไฟ แล้วเผาที่ละน้อย เพื่อไม่ให้เกิดหมอกควันพิษขึ้นได้
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงราย โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย ได้มีกำหนดการจัดกิจกรรมโครงการ “เชียงรายไร้หมอกควัน ร่วมใจกัน ลด เลิก เผา” ที่สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติฯ เขตเทศบาลนครเชียงราย โดยมีนายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จะเดินทางไปเป็นประธานในพิธี
ด้านนายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวในส่วนของการแก้ไขปัญหาไฟป่าช่วงหน้าแล้งว่า ได้มีแนวทางให้ประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่ป่า ร่วมกันเฝ้าระวังและป้องกัน ไม่ให้ไฟป่าเกิดขึ้น และให้ประชาชนได้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถดับไฟได้หากมีเหตุไฟป่าเกิดขึ้น จึงได้จัดให้มีการอบรมสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง ประมาณ 400 คน ที่สมัครใจร่วมเป็นอาสาสมัครป้องกันไฟป่า เพื่อคอยระวังเหตุ ให้การช่วยเหลือ และสนับสนุนในการป้องกันไฟป่าวที่อาจเกิดขึ้น
นายวิฑูรย์ เริ่มวิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จากการบินตรวจพื้นที่ในเขต จ.เชียงราย - พะเยา พบว่าเริ่มมีราษฎรจุดไฟเผาป่าเตรียมพื้นที่เพาะปลูกและเผาเศษวัสดุในครัวเรือน เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าประชาชนไม่ให้ความร่วมมืองดการเผาก็จะทำให้เกิดเหตุการณ์หมอกควันพิษ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และด้านสิ่งแวดล้อม จนต้องประกาศเขตภัยพิบัติเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมาแน่นอน
นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 15 มกราคม–15 พฤษภาคม 2551 ซึ่งถือว่าเป็นช่วง 120 วัน ที่มีความเสี่ยงที่สุดในการที่จะเกิดหมอกควันพิษ รัฐบาลและหน่วยงานทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้ขอความร่วมมือจากประชาชนในการเผาในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี แต่หากยังมีการฝ่าฝืนก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ส่วนมาตรการที่ทางจังหวัดเชียงราย ได้กำหนดไว้ก็คือ หากราษฎรมีความจำเป็นที่จะต้องเผาก็ขอให้แจ้งที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นผู้กำหนดพื้นที่ เวลา ที่สามารถเผาได้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการลดปัญหาได้ในระดับหนึ่ง
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ดังนั้น จึงขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่อย่าได้เผาเพื่อเตรียมพื้นที่ทำกิน หรือ เผาตอซังฟางข้าว และหันมาใช้การกำจัดหรือทำลายเศษวัชพืชต่าง ๆ ด้วยวิธีอื่น ที่จะไม่ทำให้เกิดหมอกควันพิษ เช่น การทำเป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ แทน หรือหากมีความจำเป็นต้องเผาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ให้รวมกองพร้อมทำแนวกันไฟ แล้วเผาที่ละน้อย เพื่อไม่ให้เกิดหมอกควันพิษขึ้นได้
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงราย โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย ได้มีกำหนดการจัดกิจกรรมโครงการ “เชียงรายไร้หมอกควัน ร่วมใจกัน ลด เลิก เผา” ที่สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติฯ เขตเทศบาลนครเชียงราย โดยมีนายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จะเดินทางไปเป็นประธานในพิธี
ด้านนายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวในส่วนของการแก้ไขปัญหาไฟป่าช่วงหน้าแล้งว่า ได้มีแนวทางให้ประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่ป่า ร่วมกันเฝ้าระวังและป้องกัน ไม่ให้ไฟป่าเกิดขึ้น และให้ประชาชนได้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถดับไฟได้หากมีเหตุไฟป่าเกิดขึ้น จึงได้จัดให้มีการอบรมสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง ประมาณ 400 คน ที่สมัครใจร่วมเป็นอาสาสมัครป้องกันไฟป่า เพื่อคอยระวังเหตุ ให้การช่วยเหลือ และสนับสนุนในการป้องกันไฟป่าวที่อาจเกิดขึ้น
