ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เชียงใหม่เร่งสานต่อและพัฒนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องกับประเทศเพื่อนบ้าน ย้ำทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันทำอย่างเป็นระบบเพื่อสานความสัมพันธ์ต่อเนื่อง ขณะที่เอกชนแนะ ไม่ควรสถาปนาความสัมพันธ์พร่ำเพรื่อ แต่เมื่อเริ่มต้นแล้วต้องมีการสานต่อที่ดี
วันนี้ (15 ม.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะทำงานวิเทศสัมพันธ์และกิจการต่างประเทศ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินงานต่างประเทศของจังหวัดเชียงใหม่ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในฐานะเมืองพี่เมืองน้องและเมืองคู่มิตร ทั้งที่ได้มีการสถาปนาลงนามเป็นเมืองพี่เมืองน้อง และที่อยู่ระหว่างการทาบทามความสัมพันธ์ต่อกันเพื่อกระชับไมตรีต่อกันยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมา ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการลงนามสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องไปแล้วกับนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และจังหวัดย็อกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย รวมทั้งเตรียมที่จะมีการลงนามสถาปนาความสัมพันธ์ร่วมกับนครชิงเต่า ประเทศจีน และเมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ขณะที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้มีการลงนามสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องไปแล้วกับนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน เมืองอูโอสึ จังหวัดโทยามา และจังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการกับนครฮาบิ้น มณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศจีน
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในการสานความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องกับเมืองในประเทศต่างๆ หลังจากนี้ไป ต้องการให้มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถสานต่อความสัมพันธ์ได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารจังหวัด
ขณะเดียวกัน อยากให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันในการเชื่อม และสานความสัมพันธ์กับเมืองพี่เมืองน้อง ทั้งที่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ไปแล้ว และจะมีการสถาปนาความสัมพันธ์ขึ้นในอนาคตเ พื่อให้เกิดการพัฒนาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและเป็นเอกภาพ
ขณะที่ นายเฉลิมชาติ นครังกุล รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า การสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง ระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับเมืองใดๆ ก็ตาม ในอนาคต ไม่ควรจะมีการดำเนินการอย่างพร่ำเพรื่อ และอยากให้มีการดำเนินการร่วมกันโดยทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิ่น รวมทั้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนควรจะต้องมีการสานต่อและพัฒนาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ไม่เหมือนที่ผ่านมาที่มีการเริ่มต้นแต่ขาดการสานต่อที่ดี
ทั้งนี้ เสนอว่า จังหวัดเชียงใหม่ควรจะเป็นแกนหลัก ในการดำเนินการและมีการจัดบุคลากรและงบประมาณมาสนับสนุนเพื่อการนี้โดยเฉพาะด้วย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินการพัฒนาความสัมพันธ์กับเมืองพี่เมืองน้องต่างๆ
วันนี้ (15 ม.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะทำงานวิเทศสัมพันธ์และกิจการต่างประเทศ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินงานต่างประเทศของจังหวัดเชียงใหม่ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในฐานะเมืองพี่เมืองน้องและเมืองคู่มิตร ทั้งที่ได้มีการสถาปนาลงนามเป็นเมืองพี่เมืองน้อง และที่อยู่ระหว่างการทาบทามความสัมพันธ์ต่อกันเพื่อกระชับไมตรีต่อกันยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมา ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการลงนามสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องไปแล้วกับนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และจังหวัดย็อกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย รวมทั้งเตรียมที่จะมีการลงนามสถาปนาความสัมพันธ์ร่วมกับนครชิงเต่า ประเทศจีน และเมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ขณะที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้มีการลงนามสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องไปแล้วกับนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน เมืองอูโอสึ จังหวัดโทยามา และจังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการกับนครฮาบิ้น มณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศจีน
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในการสานความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องกับเมืองในประเทศต่างๆ หลังจากนี้ไป ต้องการให้มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถสานต่อความสัมพันธ์ได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารจังหวัด
ขณะเดียวกัน อยากให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันในการเชื่อม และสานความสัมพันธ์กับเมืองพี่เมืองน้อง ทั้งที่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ไปแล้ว และจะมีการสถาปนาความสัมพันธ์ขึ้นในอนาคตเ พื่อให้เกิดการพัฒนาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและเป็นเอกภาพ
ขณะที่ นายเฉลิมชาติ นครังกุล รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า การสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง ระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับเมืองใดๆ ก็ตาม ในอนาคต ไม่ควรจะมีการดำเนินการอย่างพร่ำเพรื่อ และอยากให้มีการดำเนินการร่วมกันโดยทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิ่น รวมทั้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนควรจะต้องมีการสานต่อและพัฒนาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ไม่เหมือนที่ผ่านมาที่มีการเริ่มต้นแต่ขาดการสานต่อที่ดี
ทั้งนี้ เสนอว่า จังหวัดเชียงใหม่ควรจะเป็นแกนหลัก ในการดำเนินการและมีการจัดบุคลากรและงบประมาณมาสนับสนุนเพื่อการนี้โดยเฉพาะด้วย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินการพัฒนาความสัมพันธ์กับเมืองพี่เมืองน้องต่างๆ
