ปริมาณน้ำภาคเหนือตอนล่างวิกฤต-ชลประทานเตือนชาวนาหยุดทำนาปรัง

พิษณุโลก- ชลประทานพิษณุโลก ระบุ ปลาย ม.ค.แม่น้ำยมแห้ง ยอมรับวันนี้ต้องผันน้ำน่านเข้า เตือนอย่าทำนาปรังครั้งที่ 2 น้ำทั้งนอกและในโครงการไม่มี

นายสมชาย วงศ์ศิริ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ปีนี้ (ณ 14 มกราคม 2551) มีจำนวน 6,487 ล้านลูกบาศก์เมตร จากที่มีปริมาณความจุ 9,510 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ ร้อยละ 68 หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน น้อยกว่า 1,967 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือน้อยลง 23.27%

ทั้งนี้ เป็นเพราะปริมาณน้ำฝนตอนบนของลุ่มน้ำแม่น้ำน่านลดลง ทำให้น้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ปีนี้น้อยลง ประเมินได้ว่า ปลายเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ แม้ว่าแม่น้ำน่านจะมีน้ำไหลตลอดฤดูแล้ง เพราะมีน้ำต้นทุนจากเขื่อนสิริกิติ์ แต่ปริมาณน้ำในแม่น้ำจะแห้งขอด คาดว่า น้ำในแม่น้ำยมจะหมดประมาณปลายเดือนมกราคมนี้

ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โครงการชลประทานพิษณุโลกได้ผันน้ำจากแม่น้ำน่าน ไหลสู่แม่น้ำยม ต.มะต้อง อ.พรหมพิราม พิษณุโลก ทำให้ปริมาณน้ำยมช่วยพื้นที่เกษตรกรในการทำข้าวนาปรังครั้งที่ 1 ได้ ซึ่งกำลังเก็บเกี่ยวได้ทัน แต่หากจะปลูกข้าวนาปรังครั้งที่ 2 ไม่ได้แน่ เพราะไมมีน้ำพอในการทำนาปรัง

นอกจากนี้ ลำน้ำสาขาแม่น้ำน่านในจังหวัดพิษณุโลก เช่น แม่น้ำวังทองเหลืออยู่ครึ่งเดียว และน้ำแห้งปลายเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนคลองวัดตายมน้ำจะหมดปลายเดือนมกราคม สำหรับคลองโคกช้างน้ำจะหมดเดือนกุมภาพันธ์นี้ สำหรับแม่น้ำแควน้อยมีปริมาณน้ำ 50% คาดว่า จะหมดปลายเดือนมีนาคม ณ วันนี้เขื่อนแควน้อยยังไม่สามารถช่วยบรรเทาในฤดูแล้งนี้ได้ เนื่องจากโครงการเขื่อนแควน้อยยังไม่เสร็จสมบูรณ์

“ขอเตือนชาวนานอกเขตชลประทาน จะต้องหยุดการทำนาปรังครั้งที่ 2 เพราะจะไม่มีน้ำให้ทำ ส่วนพื้นที่นาในเขตชลประทานในจังหวัดพิษณุโลกประมาณ 600,000 ไร่ ก็ต้องใช้น้ำอย่างประหยัด” นายสมชาย กล่าว