ตราด – ชลประทานตราด หวั่นป๊อปล็อกไม้พังอีกรอบ เร่งแก้ไขใช้ประตูเหล็ก 6 ท่อนปิดประตูน้ำ ขณะเกษตรกรทำนาถูกน้ำท่วมนาเสียหาย 30 ไร่ ส่วนปัญหาขาดน้ำมีแน่หากหยุดปล่อยน้ำ
ภายหลังเกิดประตูอ่างเก็บน้ำเขาระกำตอนล่าง ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด ที่ใช้ ป๊อปล็อก (ไม้ท่อน) จำนวน 6 ท่อน ปิดกั้นประตูน้ำเกิดพัง และส่งผลให้น้ำกว่า 2 ล้านลูกบาศก์เมตร ทะลักออกมา ไหลลงคลองบางพระ และคลองชลประทานสายที่ 1 สายที่ 2 และ สายที่ 3 เมื่อเวลา 22.30 น.ของคืนวันที่ 9 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา และทางชลประทาน จ.ตราด ได้แก้ไข ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการใช้ท่อนไม้มาซ่อมแซม และสามารถปิดประตูอ่างได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อซ่อมเสร็จแล้วสำรวจ พบว่า ความดันของน้ำยังมีความดันสูง การนำท่อนไม้มาทำประตูกั้นน้ำ อาจจะเกิดปัญหาเหมือนเดิมได้ นายภูษิต พรหมเมศร์ หน.ฝ่ายส่งน้ำ 1 สำนักงานชลประทาน จ.ตราด จึงได้ปรึกษากับ นายสมโภชน์ ชูศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทาน จ.ตราด เพื่อปรึกษาและแก้ไขใหม่ เพราะหากไม่แก้ไขจะทำให้เกิดปัญหาประตูเก็บน้ำพังอีกครั้ง
ดังนั้น ในเวลา 08.00 น.วันที่ 10 มกราคม 2551 นายภูษิต พรหมเมศร์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดทำประตูเหล็กขนาดเท่ากับไม้ท่อน 6 ท่อน เพื่อให้เกิดความแข็งแรง และไม่เสียหาย
แต่การดำเนินการต้องล่าช้า ทำให้น้ำในอ่างไหลทะลักออกมา และทำให้น้ำในคลองบางพระมีระดับเพิ่มขึ้นกว่า 1 เมตร ขณะที่น้ำทะเลหนุนทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอีก แต่ยังไม่ท่วมบ้านเรือนที่อาศัยอยู่ริมคลองบางพระ
นายภูษิต กล่าวว่า การดำเนินการทางชลประทานตราดได้ทำงานแก้ไขมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และทุกคนยังไม่ได้นอนต้องตัดเหล็กและเชื่อมเป็นประตูเหล็กให้แข็งแรงรองรับกับแรงดันน้ำ ทั้งนี้ ยังต้องตัดเหล็กแต่ละข้างใช้เวลาข้างละ 1 ชั่วโมงเศษรวมแล้วเกือบ 3 ชั่วโมง ซึ่งตรงนี้เสียเวลามาก
ขณะ นางสลิ่ม บัวดี ที่ชาวนาที่ ต.หนองเสม็ด กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชลประทานว่าประตูอ่างชำรุด และมีน้ำไหลออกมาเข้าสู่คลองบางพระ และก็มีน้ำไหลเข้ามาทางคลองชลประทานสายที่ 1 จนน้ำท่วมนาไป 30 ไร่ และได้รับความเสียหาย เพราะข้าวเพิ่งหว่านไป แต่น้ำคงไม่ขาดแคบนเพราะชลประทานปล่อยน้ำมาให้เพียงพอ
ส่วน นางมุกดา ชาวนาอีกราย กล่าวว่า น้ำที่สูญเสียไปจะส่งผลกระทบต่อจำนวนน้ำที่ใช้ในหน้าแล้ง เพราะชาวนาต้องใช้น้ำมาก หากชลประทานตราดปล่อยให้น้ำไหลออกไปมาก และที่ผ่านมาบอกว่าให้ทำนาได้ 50-60 ไร่ ซึ่งจะมีน้ำเพียงพอ โดยที่ ต.หนองเสม็ด มีพื้นที่ปลูกกว่า 3,000 ไร่ หากไม่มีน้ำจะเสียหายมาก
ภายหลังเกิดประตูอ่างเก็บน้ำเขาระกำตอนล่าง ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด ที่ใช้ ป๊อปล็อก (ไม้ท่อน) จำนวน 6 ท่อน ปิดกั้นประตูน้ำเกิดพัง และส่งผลให้น้ำกว่า 2 ล้านลูกบาศก์เมตร ทะลักออกมา ไหลลงคลองบางพระ และคลองชลประทานสายที่ 1 สายที่ 2 และ สายที่ 3 เมื่อเวลา 22.30 น.ของคืนวันที่ 9 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา และทางชลประทาน จ.ตราด ได้แก้ไข ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการใช้ท่อนไม้มาซ่อมแซม และสามารถปิดประตูอ่างได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อซ่อมเสร็จแล้วสำรวจ พบว่า ความดันของน้ำยังมีความดันสูง การนำท่อนไม้มาทำประตูกั้นน้ำ อาจจะเกิดปัญหาเหมือนเดิมได้ นายภูษิต พรหมเมศร์ หน.ฝ่ายส่งน้ำ 1 สำนักงานชลประทาน จ.ตราด จึงได้ปรึกษากับ นายสมโภชน์ ชูศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทาน จ.ตราด เพื่อปรึกษาและแก้ไขใหม่ เพราะหากไม่แก้ไขจะทำให้เกิดปัญหาประตูเก็บน้ำพังอีกครั้ง
ดังนั้น ในเวลา 08.00 น.วันที่ 10 มกราคม 2551 นายภูษิต พรหมเมศร์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดทำประตูเหล็กขนาดเท่ากับไม้ท่อน 6 ท่อน เพื่อให้เกิดความแข็งแรง และไม่เสียหาย
แต่การดำเนินการต้องล่าช้า ทำให้น้ำในอ่างไหลทะลักออกมา และทำให้น้ำในคลองบางพระมีระดับเพิ่มขึ้นกว่า 1 เมตร ขณะที่น้ำทะเลหนุนทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอีก แต่ยังไม่ท่วมบ้านเรือนที่อาศัยอยู่ริมคลองบางพระ
นายภูษิต กล่าวว่า การดำเนินการทางชลประทานตราดได้ทำงานแก้ไขมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และทุกคนยังไม่ได้นอนต้องตัดเหล็กและเชื่อมเป็นประตูเหล็กให้แข็งแรงรองรับกับแรงดันน้ำ ทั้งนี้ ยังต้องตัดเหล็กแต่ละข้างใช้เวลาข้างละ 1 ชั่วโมงเศษรวมแล้วเกือบ 3 ชั่วโมง ซึ่งตรงนี้เสียเวลามาก
ขณะ นางสลิ่ม บัวดี ที่ชาวนาที่ ต.หนองเสม็ด กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชลประทานว่าประตูอ่างชำรุด และมีน้ำไหลออกมาเข้าสู่คลองบางพระ และก็มีน้ำไหลเข้ามาทางคลองชลประทานสายที่ 1 จนน้ำท่วมนาไป 30 ไร่ และได้รับความเสียหาย เพราะข้าวเพิ่งหว่านไป แต่น้ำคงไม่ขาดแคบนเพราะชลประทานปล่อยน้ำมาให้เพียงพอ
ส่วน นางมุกดา ชาวนาอีกราย กล่าวว่า น้ำที่สูญเสียไปจะส่งผลกระทบต่อจำนวนน้ำที่ใช้ในหน้าแล้ง เพราะชาวนาต้องใช้น้ำมาก หากชลประทานตราดปล่อยให้น้ำไหลออกไปมาก และที่ผ่านมาบอกว่าให้ทำนาได้ 50-60 ไร่ ซึ่งจะมีน้ำเพียงพอ โดยที่ ต.หนองเสม็ด มีพื้นที่ปลูกกว่า 3,000 ไร่ หากไม่มีน้ำจะเสียหายมาก
