พะเยา - กรมทรัพยากรน้ำจัดสัมมนาโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างประเทศไทยและประเทศสหภาพพม่า ครั้งที่ 2 หวังนำเสนอความก้าวหน้าผลการศึกษาโครงการ รวมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ที่เกี่ยวข้องอันจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานศึกษาโครงการฯ
นายนิทัศน์ ภู่วัฒนกุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรน้ำ กำหนดจัดการสัมมนาโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างประเทศไทยและประเทศสหภาพพม่า ครั้งที่ 2 ในวันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม 2551 เวลา 13.00-16.00 น. ณ ห้องประชุม 2 (Lobby) โรงแรมภูทองเพลส จ.พะเยา กลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องจาก จ.พะเยา และวันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2551 เวลา 13.00-16.00 น. ณ ห้องประชุมบุษราคัม ชั้น 2 โรงแรมวังคำ จ.เชียงราย กลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องจาก จ.เชียงราย และเชียงใหม่
จึงขอเชิญผู้แทนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง, ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, คณะอนุกรรมการลุ่มน้ำ, ผู้แทนกลุ่มผู้ใช้น้ำภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม ภาคธุรกิจและการโรงแรม, ผู้แทนองค์การพัฒนาเอกชน, สื่อมวลชน, ผู้นำท้องถิ่น, ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในพื้นที่ลุ่มน้ำ, นักวิชาการ NGO และผู้สนใจทั่วไปในพื้นที่เป้าหมายที่เกี่ยวข้องของโครงการเข้าร่วมการสัมมนาโครงการ ครั้งที่ 2 เพื่อแสดงความคิดเห็นและทัศนคติต่อโครงการ เป็นแนวทางประกอบการศึกษาโครงการฯ
รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวด้วยว่า กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังดำเนินการศึกษาความเหมาะสมโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างประเทศไทยและประเทศสหภาพพม่า โดยได้มอบหมายให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาซึ่งประกอบด้วย บริษัท ซันยู คอนซัลแตนท์ส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด และบริษัท แอสดีคอน คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้ดำเนินการศึกษา
นายนิทัศน์ ภู่วัฒนกุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรน้ำ กำหนดจัดการสัมมนาโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างประเทศไทยและประเทศสหภาพพม่า ครั้งที่ 2 ในวันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม 2551 เวลา 13.00-16.00 น. ณ ห้องประชุม 2 (Lobby) โรงแรมภูทองเพลส จ.พะเยา กลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องจาก จ.พะเยา และวันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2551 เวลา 13.00-16.00 น. ณ ห้องประชุมบุษราคัม ชั้น 2 โรงแรมวังคำ จ.เชียงราย กลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องจาก จ.เชียงราย และเชียงใหม่
จึงขอเชิญผู้แทนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง, ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, คณะอนุกรรมการลุ่มน้ำ, ผู้แทนกลุ่มผู้ใช้น้ำภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม ภาคธุรกิจและการโรงแรม, ผู้แทนองค์การพัฒนาเอกชน, สื่อมวลชน, ผู้นำท้องถิ่น, ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในพื้นที่ลุ่มน้ำ, นักวิชาการ NGO และผู้สนใจทั่วไปในพื้นที่เป้าหมายที่เกี่ยวข้องของโครงการเข้าร่วมการสัมมนาโครงการ ครั้งที่ 2 เพื่อแสดงความคิดเห็นและทัศนคติต่อโครงการ เป็นแนวทางประกอบการศึกษาโครงการฯ
รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวด้วยว่า กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังดำเนินการศึกษาความเหมาะสมโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างประเทศไทยและประเทศสหภาพพม่า โดยได้มอบหมายให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาซึ่งประกอบด้วย บริษัท ซันยู คอนซัลแตนท์ส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด และบริษัท แอสดีคอน คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้ดำเนินการศึกษา