ศูนย์ข่าวขอนแก่น– ตำรวจเมืองหมอแคน รวบเอเยนต์ค้ายาบ้า เปิดธุรกิจเดินรถบังหน้า ได้พร้อมของกลางยาบ้า 100 เม็ด สารภาพเดินรถกำไรน้อย ราคาน้ำมันแพง ไม่พอต่อค่าใช้จ่าย จึงหันมาทำผิดกฎหมายดังกล่าว
บ่ายวันนี้ (8 ม.ค.) ที่ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.อ.จตุพล ปานรักษา รองผู้บังคับการศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผู้กำกับกลุ่มงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.ต.ธนพล ทาทอง สารวัตรกลุ่มงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 และ ร.ต.ท.สุนันท์ วงษ์สีมี รองสารวัตรกลุ่มงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำตัวผู้ต้องหาเป็นเอเยนต์ค้ายาบ้า
ประกอบด้วย นางดวงเดือน หรือ ดวง ต้อมสุธรรม อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 3 บ้านสงยาง ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และ นายณัฐพงษ์ หรือ อ้วน บุตรวงษ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 3 บ้านขามเปี้ย ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม พร้อมของกลางยาบ้ารวม 110 เม็ด มาดำเนินคดีหลังสืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดมีพฤติกรรมรอบค้ายาบ้ามานาน
สอบสวน นางดวงเดือน ให้การรับสารภาพว่า ตนมีธุรกิจเดินรถสาย ขอนแก่น-อำนาจเจริญ แต่ธุรกิจเดินรถในช่วงนี้มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ทั้งค่าน้ำมัน ค่าดูแลซ่อมบำรุงรักษา และครอบครัวที่มีภาระค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ธุรกิจเดินรถประสบปัญหาอย่างหนัก จึงได้หันมาค้ายาบ้า โดยมีเพื่อนเป็นคนแนะนำ และจะรับยาบ้ามาจากชายไม่ทราบชื่อนามสกุล อยู่ในจังหวัดอำนาจเจริญในราคาเม็ดละ 200 บาท และมาส่งให้ลูกค้าที่จังหวัดขอนแก่นในราคาเม็ดละ 300 บาท โดยใช้รถประจำทางที่ตนมีลักลอบนำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้า
นางดวงเดือน รับสารภาพอีกว่า สาเหตุที่ใช้รถประจำทางของตนลำเลียง เนื่องจากว่าตกเป็นเป้าสายตาตำรวจน้อยและการตรวจค้นไม่บ่อย เนื่องจากว่าเป็นรถประจำทาง ทำให้รอดพ้นต่อการจับกุม และก็ได้ทำในลักษณะนี้มานานแล้ว แต่การรับยาบ้าจะรับมาครั้งละไม่เยอะ เพราะง่ายต่อการแอบซ่อน อีกทั้งที่เก็บรถประจำทางอยู่จังหวัดอำนาจเจริญ ทำให้สะดวกในการเดินทาง และได้ทำในลักษณะนี้มาเรื่อยๆ เพราะเห็นว่าได้กำไรเยอะจนในที่สุดมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
ส่วน นายรัฐพงษ์ ผู้ต้องหาที่จับได้อีกคนนั้น เป็นลูกค้าของตนที่มารับยาบ้าจากตนไปจำหน่ายอีกทอด
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองและจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต และส่งตัวให้พนักงานสืบสวนสอบสวนขยายผลดำเนินคดีต่อไป
บ่ายวันนี้ (8 ม.ค.) ที่ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.อ.จตุพล ปานรักษา รองผู้บังคับการศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผู้กำกับกลุ่มงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.ต.ธนพล ทาทอง สารวัตรกลุ่มงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 และ ร.ต.ท.สุนันท์ วงษ์สีมี รองสารวัตรกลุ่มงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำตัวผู้ต้องหาเป็นเอเยนต์ค้ายาบ้า
ประกอบด้วย นางดวงเดือน หรือ ดวง ต้อมสุธรรม อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 3 บ้านสงยาง ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และ นายณัฐพงษ์ หรือ อ้วน บุตรวงษ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 3 บ้านขามเปี้ย ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม พร้อมของกลางยาบ้ารวม 110 เม็ด มาดำเนินคดีหลังสืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดมีพฤติกรรมรอบค้ายาบ้ามานาน
สอบสวน นางดวงเดือน ให้การรับสารภาพว่า ตนมีธุรกิจเดินรถสาย ขอนแก่น-อำนาจเจริญ แต่ธุรกิจเดินรถในช่วงนี้มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ทั้งค่าน้ำมัน ค่าดูแลซ่อมบำรุงรักษา และครอบครัวที่มีภาระค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ธุรกิจเดินรถประสบปัญหาอย่างหนัก จึงได้หันมาค้ายาบ้า โดยมีเพื่อนเป็นคนแนะนำ และจะรับยาบ้ามาจากชายไม่ทราบชื่อนามสกุล อยู่ในจังหวัดอำนาจเจริญในราคาเม็ดละ 200 บาท และมาส่งให้ลูกค้าที่จังหวัดขอนแก่นในราคาเม็ดละ 300 บาท โดยใช้รถประจำทางที่ตนมีลักลอบนำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้า
นางดวงเดือน รับสารภาพอีกว่า สาเหตุที่ใช้รถประจำทางของตนลำเลียง เนื่องจากว่าตกเป็นเป้าสายตาตำรวจน้อยและการตรวจค้นไม่บ่อย เนื่องจากว่าเป็นรถประจำทาง ทำให้รอดพ้นต่อการจับกุม และก็ได้ทำในลักษณะนี้มานานแล้ว แต่การรับยาบ้าจะรับมาครั้งละไม่เยอะ เพราะง่ายต่อการแอบซ่อน อีกทั้งที่เก็บรถประจำทางอยู่จังหวัดอำนาจเจริญ ทำให้สะดวกในการเดินทาง และได้ทำในลักษณะนี้มาเรื่อยๆ เพราะเห็นว่าได้กำไรเยอะจนในที่สุดมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
ส่วน นายรัฐพงษ์ ผู้ต้องหาที่จับได้อีกคนนั้น เป็นลูกค้าของตนที่มารับยาบ้าจากตนไปจำหน่ายอีกทอด
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองและจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต และส่งตัวให้พนักงานสืบสวนสอบสวนขยายผลดำเนินคดีต่อไป