เลย - ไฟหนาวไหม้บ้านวอดไป 2 หลังครึ่ง เสียหายประมาณ 8 แสน ชาวบ้านหนีไฟอลหม่าน
เมื่อเวลา 16.40 น.วันที่ 5 มกราคม 2551 ร.ต.อ.อนุพงศ์ วันทองสังข์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองเลย จังหวัดเลย ได้รับแจ้งว่า เกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่หมู่บ้านถิ่น ต.นาโป่ง อ.เมืองเลย เมื่อรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อม ร.ต.ท.ธนเดช ระแวงวรรณ รอง สวป.และตำรวจประจำจุดตรวจนาโป่งได้ไปยังที่เกิดเหตุ ในขณะเดียวกัน นายสุเทพ มณีโชติ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเลย รับรายงานก็ได้ไปร่วมทำการสกัดเพลิงทันที
เมื่อไปถึงบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ ก็พบว่า เพลิงได้ลุกลามไหม้หลังที่ 2 และกำลังลามไปบ้านหลังที่ 3 จึงได้ประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองเลย ไปช่วยทำการสกัดเพลิงเป็นการด่วน ปรากฏว่า เมื่อรถดับเพลิงไปถึงบ้านทั้งสองหลังไหม้ไปเกือบหมด และกำลังลามทางหลังบ้านหลังที่ 3 จึงได้ทำการใช้น้ำเลี้ยงบ้านที่เหลือเอาไว้
ต่อมามีรถดับเพลิงขนาดเล็กของ อบต.นาโป่ง ไปถึง ปรากฏว่า ไม่มีน้ำต้องไปเติมน้ำมาถึงไฟก็สงบแล้ว
จากการสอบสวนบ้านที่ได้รับความเสียหายครั้งนี้มี 2 หลังครึ่ง บ้านต้นเพลิงเป็นบ้านของนางสถิต โสภารักษ์ อายุ 60 ปี เลขที่ 82 หมู่ 3 บ้านถิ่น ซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิง หลังที่ 2 เป็นบ้านของนางศรีสุข โสภารักษ์ อายุ 35 ปี เลขที่ 213 ที่อยู่ติดกัน และหลังที่ 3 เป็นบ้านของนางจะนที เกษตร อายุ 46 ปี เลขที่ 8 บ้านถิ่น โดยไหม้แต่ทางด้านหลัง บ้าน 2 หลังที่วอดทั้งหมดเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ในขณะเกิดเหตุนางสถิตไม่อยู่บ้าน และบ้านของนางศรีสุขนั้นไปทำงานที่กรุงเทพฯ สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาดไฟฟ้าช็อตที่เรือนครัวหลังบ้าน
สำหรับ นางสถิต โสภารักษ์ นั้น ในขณะเกิดเหตุไปเก็บข้าวโพดที่ไร่ ของที่เก็บไว้ในบ้านเช่นข้าวเปลือก รถไถนาเดินตาม ซึ่งซื้อยังไม่ถึงปี ข้าวโพดอีก 80 กระสอบ พร้อมเงินสดที่เขามาจ่ายค่าข้าวโพดเมื่อเช้าวันนี้ 5 หมื่นกว่าบาท ถูกเพลิงไหม้ไม่เหลืออะไรเลย
ทางด้าน นายสุเทพ มณีโชติ ป้องกันสาธารณะภัยที่ไปร่วมในการดับเพลิง รีบจัดของไปช่วยผู้ประสบภัยเพลิงไหม้เป็นการด่วน โดยเฉพาะผ้าห่ม เนื่องจากขณะนี้จังหวัดเลย หนาวจัด
เมื่อเวลา 16.40 น.วันที่ 5 มกราคม 2551 ร.ต.อ.อนุพงศ์ วันทองสังข์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองเลย จังหวัดเลย ได้รับแจ้งว่า เกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่หมู่บ้านถิ่น ต.นาโป่ง อ.เมืองเลย เมื่อรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อม ร.ต.ท.ธนเดช ระแวงวรรณ รอง สวป.และตำรวจประจำจุดตรวจนาโป่งได้ไปยังที่เกิดเหตุ ในขณะเดียวกัน นายสุเทพ มณีโชติ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเลย รับรายงานก็ได้ไปร่วมทำการสกัดเพลิงทันที
เมื่อไปถึงบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ ก็พบว่า เพลิงได้ลุกลามไหม้หลังที่ 2 และกำลังลามไปบ้านหลังที่ 3 จึงได้ประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองเลย ไปช่วยทำการสกัดเพลิงเป็นการด่วน ปรากฏว่า เมื่อรถดับเพลิงไปถึงบ้านทั้งสองหลังไหม้ไปเกือบหมด และกำลังลามทางหลังบ้านหลังที่ 3 จึงได้ทำการใช้น้ำเลี้ยงบ้านที่เหลือเอาไว้
ต่อมามีรถดับเพลิงขนาดเล็กของ อบต.นาโป่ง ไปถึง ปรากฏว่า ไม่มีน้ำต้องไปเติมน้ำมาถึงไฟก็สงบแล้ว
จากการสอบสวนบ้านที่ได้รับความเสียหายครั้งนี้มี 2 หลังครึ่ง บ้านต้นเพลิงเป็นบ้านของนางสถิต โสภารักษ์ อายุ 60 ปี เลขที่ 82 หมู่ 3 บ้านถิ่น ซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิง หลังที่ 2 เป็นบ้านของนางศรีสุข โสภารักษ์ อายุ 35 ปี เลขที่ 213 ที่อยู่ติดกัน และหลังที่ 3 เป็นบ้านของนางจะนที เกษตร อายุ 46 ปี เลขที่ 8 บ้านถิ่น โดยไหม้แต่ทางด้านหลัง บ้าน 2 หลังที่วอดทั้งหมดเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ในขณะเกิดเหตุนางสถิตไม่อยู่บ้าน และบ้านของนางศรีสุขนั้นไปทำงานที่กรุงเทพฯ สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาดไฟฟ้าช็อตที่เรือนครัวหลังบ้าน
สำหรับ นางสถิต โสภารักษ์ นั้น ในขณะเกิดเหตุไปเก็บข้าวโพดที่ไร่ ของที่เก็บไว้ในบ้านเช่นข้าวเปลือก รถไถนาเดินตาม ซึ่งซื้อยังไม่ถึงปี ข้าวโพดอีก 80 กระสอบ พร้อมเงินสดที่เขามาจ่ายค่าข้าวโพดเมื่อเช้าวันนี้ 5 หมื่นกว่าบาท ถูกเพลิงไหม้ไม่เหลืออะไรเลย
ทางด้าน นายสุเทพ มณีโชติ ป้องกันสาธารณะภัยที่ไปร่วมในการดับเพลิง รีบจัดของไปช่วยผู้ประสบภัยเพลิงไหม้เป็นการด่วน โดยเฉพาะผ้าห่ม เนื่องจากขณะนี้จังหวัดเลย หนาวจัด