สามเณรออกบิณฑบาตถูกรถไฟชนมรณภาพ

นครปฐม – เกิดเหตุสลดต้นปีหนู 51 สามเณรชาวบังกลาเทศ ออกบิณฑบาตตอนเช้า ถูกรถไฟชนมรณภาพ พนักงานขับรถไฟขบวนเกิดเหตุ เผย ขับรถไฟสายหาดใหญ่-กรุงเทพฯ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เปิดหวูดแจ้งเตือนตามปกติ แต่เห็นสามเณรกำลังจะเดินข้ามทางรถไฟ โดยก้มหน้าเดินมา คาดว่า สามเณรคงไม่ได้ยินเสียงหวูด จึงเดินข้ามทางรถไฟมาและเกิดเหตุสลดขึ้น

วันนี้ (3 ม.ค.) พ.ต.ท.ธานี ผูกพานิช พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งเหตุมีสามเณรถูกรถไฟเฉี่ยวเสียชีวิตที่บริเวณทางรถไฟหน้าวัดเสน่หา ถ.รถไฟตะวันตก เขตเทศบาลนครนครปฐม อ.เมืองนครปฐม จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม

ที่เกิดเหตุเป็นทางข้ามรถไฟบริเวณหน้าวัดเสน่หา มีประชาชน และพระภิกษุ สามเณร เข้ามามุงดูเหตุการณ์ด้วยความตื่นตระหนก เจ้าหน้าที่พบศพสามเณรอามิตตามัน อายุ 25 ปี เป็นนักบวชชาวบังกลาเทศ นอนเสียชีวิต อยู่ริมทางรถไฟ มีบาดแผลฉกรรจ์ จากการถูกกระแทกอย่างแรงที่ศีรษะ และลำตัวหลายแห่ง โดยที่มือทั้งสองข้างยังกุมบาตรไว้แน่น และมีขบวนรถไฟ ขบวนที่ 172 ซึ่งเป็นรถไฟหัวลาก มีตู้โดยสาร 13 ตู้ จอดอยู่บนรางในบริเวณดังกล่าว

สอบปากคำ นายสุเทพ บ่อเกิด พนักงานรถจักร 6 ฝ่ายช่างกล ซึ่งเป็นพนักงานขับรถไฟขบวนเกิดเหตุ เล่าว่า ตนเองขับรถไฟสายหาดใหญ่-กรุงเทพฯ ซึ่งออกจากสถานีต้นทางเวลา 04.45 น.และมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุเวลา 07.55 น.โดยเมื่อใกล้ถึงทางข้ามรถไฟได้เปิดหวูดแจ้งเตือนตามปกติ แต่เห็นสามเณรอามิตตามัน กำลังจะเดินข้ามทางรถไฟ โดยก้มหน้าเดินมา คาดว่าสามเณรอามิตตามัน คงไม่ได้ยินเสียงหวูด จึงเดินข้ามทางรถไฟมา ซึ่งตนเองพยายามห้ามล้อและเบรกเต็มที่ แต่ไม่ทัน หัวรถจักรจึงได้เฉี่ยวสามเณร จนกระเด็นไป 10 เมตร และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

จากการสวบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานสามเณรอามิตตามัน น่าจะมุ่งสมาธิในการเดินเพื่อกลับวัดหลังจากบิณฑบาต และไม่คิดว่าจะมีขบวนรถไฟมาขณะจะข้ามทางรถไฟ หรืออาจไม่ชำนาญในการยืนรอรถไฟ ทำให้ยืนชิดทางรถไฟเกินไปโดยจะมีการส่งศพไปโรงพยาบาลเพื่อรอการประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

สำหรับสามเณรอามิตตามัน นั้นเพิ่งเดินทางมาจากประเทศบังกลาเทศ ได้เพียง 3 สัปดาห์ เพื่อมาศึกษาพระธรรม เพื่อสอบนักธรรม ที่วัดเสน่หา อ.เมืองนครปฐม และได้ออกบิณฑบาตได้ไม่กี่วันก่อนจะมามรณภาพดังกล่าว