โยนรัฐบาลใหม่ชี้ชะตาศูนย์ประชุมฯเชียงใหม่

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ททท.ยืนยันยังไม่ล้มโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ แต่อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนส่งต่อให้รัฐบาลใหม่ชี้ขาด ขณะที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยววอนรัฐบาลใหม่เดินหน้าโครงการ ชี้เป็นตัวเร่งให้การท่องเที่ยวของเชียงใหม่มีการขยายตัวแบบก้าวกระโดด ด้านหอการค้าระบุการชะลอโครงการ ทำให้เชียงใหม่สูญเสียเม็ดเงินที่ควรจะเข้ามาหมุนเวียนในพื้นที่ไปปีละ 4-5 พันล้านบาท

นายจุณพงศ์ สาระนาค ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคเหนือเขต 1 กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ขณะนี้ได้มีการชะลอโครงการดังกล่าว โดยที่ทางรัฐบาลมีความเห็นว่าควรที่จะมีการทำการศึกษาในรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับโครงการให้มากกว่าเดิม แม้ที่ผ่านมาจะได้เคยมีการทำการศึกษาไปแล้ว แต่ส่วนใหญ่เป็นการสอบถามในส่วนของความคิดเห็นของภาคเอกชนและผู้ประกอบการท่องเที่ยว ทว่ายังขาดในส่วนของภาคประชาชน และชุมชนหรือผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงโครงการ ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนได้เสียโดยตรง

ทั้งนี้ การศึกษาดังกล่าวยังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะให้สถาบันการศึกษาใดเป็นผู้ดำเนินการ และหากมีการศึกษาเสร็จสิ้นแล้ว เห็นว่า สมควรที่จะมอบให้รัฐบาลใหม่เป็นผู้พิจารณาว่าสมควรที่จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปหรือไม่ แต่เบื้องต้นยืนยันว่ายังไม่มีการยกเลิกโครงการนี้

ส่วนในกรณีที่ถ้าหากมีการยกเลิกโครงการนี้ จะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่หรือไม่นั้น ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคเหนือเขต 1 กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่มีการริเริ่มโครงการนี้ ได้มีภาคเอกชนเข้ามาลงทุน ด้านที่พักและโรงแรมในพื้นที่เชียงใหม่มากมาย ตั้งแต่โรงแรมขนาดเล็กหรือบูติกโฮเต็ลไปจนถึงโรงแรมห้าดาว โดยที่มีโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเป็นปัจจัยสนับสนุน ในการตัดสินใจอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ใช่เพียงเหตุผลเดียวในการตัดสินใจ

นอกจากนี้ ผู้ลงทุนเองก็คงจะต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ในด้านอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วยเพื่อประกอบการตัดสินใจด้วย เช่น ศักยภาพทางการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ เป็นต้น ทั้งนี้หากมีการยกเลิกโครงการดังกล่าว สถานที่จัดการประชุมที่มีอยู่ของจังหวัดเชียงใหม่หรือการจัดสัมมนาโดยใช้สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรมก็คงพอที่จะสามารถรองรับได้ในระดับหนึ่ง แต่คงไม่มากนัก

ด้านนายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนากุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรจะต้องมีการผลักดันโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ให้เกิดขึ้น เนื่องจากการท่องเที่ยวในปัจจุบันไม่ได้เป็นแต่เพียงแค่การเดินทางไปเที่ยวชมต่างแหล่งท่องเที่ยวอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเดินทางเพื่อประชุมสัมมนาหรือการท่องเที่ยวเชิงสวัสดิการ (อินเซนทีฟ ทัวร์) ด้วย ซึ่งการที่จะดึงดูดใจให้มีการจัดการประชุมขนาดใหญ่ หรือการประชุมระดับนานาชาติมาจัดในพื้นที่ได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความพร้อมด้านสถานที่รองรับ โดยปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดี และการเดินทางที่สะดวกสบาย ขาดก็แต่เพียงศูนย์ประชุมเพื่อรองรับการจัดประชุมขนาดใหญ่

ขณะเดียวกัน นายทรงวิทย์ แสดงความเห็นว่า โครงการดังกล่าวนอกจากจะใช้ประโยชน์ในด้านการจัดการประชุมสัมมนาขนาดใหญ่แล้ว ยังจะใช้ประโยชน์ในเรื่องของการจัดแสดงสินค้าได้อีกด้วย โดยใช้เป็นเวทีสำหรับผู้ประกอบการไทย และผู้ประกอบการท้องถิ่นในการนำเสนอขายสินค้าและบริการต่างๆ สู่ระดับสากล ในลักษณะของการจัดงานแสดงสินค้าที่จัดเป็นประจำทุกปี มีการประสานงานกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและกระทรวงต่างประเทศ ในการประชาสัมพันธ์การจัดงานล่วงหน้าเป็นปีๆ ในต่างประเทศ เชื่อว่า จะช่วยดึงดูดใจให้มีนักธุรกิจสนใจเดินทางเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

ในครั้งแรกอาจจะเป็นการเดินทางเพื่อธุรกิจ แต่หากเกิดความประทับใจก็จะเดินทางกลับมาท่องเที่ยวอีกในครั้งต่อๆ ไป และหากมีการเดินทางมากขึ้นสม่ำเสมอ ก็ยังน่าจะเป็นผลดีต่อการเปิดเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศมายังเชียงใหม่ด้วย จะเห็นได้ว่าโครงการนี้เกิดประโยชน์ทั้งทางด้านการท่องเที่ยวและด้านเศรษฐกิจ ดังนั้น หากเป็นไปได้จึงอยากจะให้รัฐบาลใหม่สนับสนุนและผลักดันโครงการนี้ให้สำเร็จด้วย เพราะเป็นประโยชน์ในทุกด้าน

“ยอมรับว่า หากจะต้องมีการล้มเลิกโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ลงไป ในที่สุดการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ก็จะยังคงมีการขยายตัวไปตามปกติอยู่ดี แต่หากมีโครงการดังกล่าวมันก็จะดีกว่า เพราะจะช่วยทำให้การขยายตัวของการท่องเที่ยวมันเป็นไปแบบก้าวกระโดดมากยิ่งขึ้น จากการที่สามารถดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจเข้ามาได้มากขึ้น แม้การลงทุนโครงการนี้จะต้องใช้เงินนับพันล้านบาท แต่ในระยะยาวเชื่อว่าจะส่งผลดีมากกว่าและคุ้มค่าการลงทุนอย่างแน่นอน ซึ่งหากเป็นไปได้ก็อยากจะเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่ผลักดันโครงการนี้ให้เกิดขึ้นจริงเสียที” นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ กล่าว

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายณรงค์ ตนานุวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า ทางภาคเอกชนเชียงใหม่มีความคาดหวังและเชื่อมั่นว่าศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่นั้น จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ภาคเหนือได้อย่างดียิ่ง โดยเชื่อว่าจะทำให้มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มจากประมาณ 1 แสนล้านบาทขึ้นไปอีกไม่ต่ำกว่า 15% จากเม็ดเงินที่จะมีการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งโครงการนี้จะคุ้มค่ากับการลงทุนแน่นอน เพราะใช้งบลงทุนเพียงประมาณ 1,900 ล้านบาท แต่สามารถทำให้มีเงินหมุนเวียนในพื้นที่เพิ่มขึ้น 15,000 ล้านบาทภายในปีเดียว

สำหรับการที่โครงการนี้ต้องมีการชะลอโครงการออกไป มองว่า ทำให้จังหวัดเชียงใหม่สูญเสียโอกาสทางตรงจากการที่ควรจะมีเงินเข้ามาหมุนเวียนในพื้นที่อย่างน้อยปีละ 4,000-5,000 ล้านบาท ขณะที่เดียวกันยังส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุนที่มีความคาดหวังสูงกับโครงการนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังถือว่าเป็นเรื่องดีที่โครงการนี้เพียงชะลอโครงการออกไปเท่านั้น โดยยังคงมีงบประมาณโครงการอยู่และรอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาพิจารณาดำเนินการต่อ แม้จะมีการจะมีการยกเลิก TOR เดิมไปแล้วก็ตาม แต่ทั้งนี้ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการสำรวจความต้องการโครงการนี้และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการนี้อีก เพราะได้เคยมีการจัดทำไปแล้ว ซึ่งเห็นว่าน่าจะนำงบประมาณ ในส่วนของการสำรวจศึกษาดังกล่าวไปใช้ในการเร่งรัดให้มีการดำเนินโครงการนี้ได้โดยเร็วมากกว่า