นครปฐม – “กาย สาริกา” นักร้องลูกทุ่งหญิงหน้าใหม่ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ “แม่ผ่องศรี วรนุช” นักร้องเสียงเสน่ห์ชื่อดังในอดีตพร้อมน้องชายครูเพลงของสาลิกา กิ่งทอง นักร้องรุ่นใหญ่และพวกในข้อหาฐานข่มขู่และบังคับให้เซ็นสัญญาโอนลิขสิทธิ์งานเพลง
วันนี้ (25 ธ.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. น.ส.ประกาย เหลี่ยง อายุ 41 ปีอยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 3 ต.ตาดทอง อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร หรือ “กาย สาริกา” นักร้องลูกทุ่งหน้าใหม่ ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท. มนตรี จ่าน้ำเที่ยง พงส.สบ 1 สภ.โพธิ์แก้ว อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ว่าถูก นางผ่องศรี วรนุช นักร้องเสียงเสน่ห์ และพวกข่มขู่และบังคับให้เซ็นสัญญาโอนลิขสิทธิ์งานเพลง ซึ่งเป็นงานเพลงของตนเองที่เคยนำไปออกอัลบั้มเพลงลูกทุ่งมาแล้ว
โดย น.ส.ประกาย หรือ กาย สาริกา เล่าว่า เดิมทีตนได้ไปทำงานร้องเพลงตามร้านคาราโอเกะ ที่ประเทศฮ่องกง เมื่อ 17 ปีก่อน โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้มาพบกับนายทรงธรรม สถาผล อายุ 52 ปี ที่ได้ไปเที่ยวฮ่องกงและชักชวนให้ตนกลับมาเมืองไทย เพื่อออกอัลบั้มเพลง จากนั้นก็ได้แนะนำให้มารู้จักกับ นางผ่องศรี วรนุช นักร้องเสียงเสน่ห์ระดับตำนานศิลปินแห่งชาติ ซึ่งตนได้ให้ความนับถือจนถึงขั้นเรียกว่าแม่
น.ส.ประกาย หรือ กาย สาริกา เล่าต่อว่า จากนั้นตนและแม่ผ่องศรี ได้สนิทสนมกันมากขึ้น จึงได้ถูกชักชวนให้ไปอยู่ที่บ้านพักโดยระหว่างนั้นตนได้ทำงานเพลง เพื่อจะออกอัลบั้มเป็นของตัวเอง โดยทาง นางผ่องศรี วรนุช มาบอกกับตนให้นำลิขสิทธิ์เพลง และเพลงต้นฉบับที่จะออกอัลบั้มมาเก็บที่นางผ่องศรี และบอกว่า หากต้องการจะนำไปใช้ให้มาขอรับไปได้ ซึ่งขณะนี้อัลบั้มเพิ่งจะเริ่มเปิดตัวออกไป เมื่อไม่กี่เดือนมานี้โดยใช้ชื่อว่า “กาย สาริกา” ในการร้องเพลงและใช้ชื่ออัลบั้มว่า “ฆ่าฉันก่อนที่รัก” และเป็นอัลบั้มแรกในชีวิตของตน ซึ่งเมื่อตนได้ออกมาจากบ้านของ นางผ่องศรี วรนุช แล้วก็พยายามที่จะติดต่อขอลิขสิทธิ์และต้นฉบับงานเพลงจำนวน 12 เพลง เพื่อจะนำไปทำมิวสิกวิดีโอ แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาบ่อยครั้ง
กระทั่งเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2550 ที่ผ่านมา นางผ่องศรี วรนุช ได้โทร.ติดต่อถึงตนเพื่อให้ไปรับลิขสิทธิ์งานเพลงที่หมู่บ้านประภัสสร ถนนพุทธมณฑล สาย 4 อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบ้านของ นางผ่องศรี วรนุช โดยตนได้ไปคนเดียว ส่วนที่บ้านหลังดังกล่าวนั้นมีนางผ่องศรี วรนุช และชายคนหนึ่งซึ่งทราบว่าเป็นน้องชายครูเพลงของสาลิกา กิ่งทอง นักร้องรุ่นใหญ่ รวมถึงคนขับรถอีก 1 คน
แต่เมื่อมีการเจรจาไม่เป็นผล ตนได้ถูกคนทั้งหมดในบ้านข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย หากไม่ยอมเซ็นโอนลิขสิทธิ์งานเพลงให้ ด้วยความเกรงกลัวตน จึงได้ยอมเซ็นสิทธิ์ต่างๆ เกี่ยวกับงานเพลงให้กับนางผ่องศรี วรนุช และได้กลับออมาโดยเมื่อคืนวันที่ 24 ธ.ค.2550 ที่ผ่านมาตน พร้อมกับ นายทรงธรรม สถาผล ผู้จัดการส่วนตัว ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ และได้รับแจ้งให้มาสอบปากคำอีกครั้งในวันนี้ ซึ่งตนขอเพียงนัดเจรจาเพื่อขอลิขสิทธิ์คืนเพียงเท่านั้น
โดยหลังรับแจ้งเรื่องราวและสอบปากคำอย่างละเอียดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังนางผ่องศรี วรนุช เพื่อให้มาเจรจาตกลงกับผู้แจ้งแต่ก็ได้รับการปฏิเสธที่จะมาให้ปากคำ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการออกหมายเรียกนางผ่องศรี มาให้ปากคำต่อไป